ศอ.รส.เผยเตรียมออกหมายจับแกนนำผู้ชุมนุมฯ พร้อมถอนประกันจำเลยคดียึดสนามบิน

ข่าวการเมือง Wednesday November 27, 2013 12:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งจากภาพกล้องวงจรปิด, ภาพนิ่ง และข่าวทางสื่อมวลชนต่างๆ รวมทั้งคำให้การของเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อยื่นขออนุมัติหมายจับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ พร้อมพวก

ได้แก่ นายนิติธร ล้ำเหลือ , นายอุทัย ยอดมณี , นายรชตชยุต ศรีโยธินศักดิ์ ในข้อหาร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้า ในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นความผิดตามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 ประกอบมาตรา 362 และข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากประตูเลื่อนไฟฟ้าเสียหาย 4 บาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358

นอกจากนั้น พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ และสน.สำราญราษฎร์ ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อขออนุมัติหมายจับ นางสาวอัญชลี ไพลีรักษ์, นายสำราญ รอดเพชร, นายสาธิต วงศ์หนองเตย กับพวก ในข้อหาทำให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 โดยมีพยานหลักฐานทั้งคำพูด คำปราศรัยบนเวที ตลอดจนข้อความที่ปรากฎผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และพยานบุคคลต่างๆ มาประกอบในการเสนอขอหมายจับในข้อหาดังกล่าว

นอกจากนี้พนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมเป็นหลักฐานเพิ่ม เพื่อขออนุมัติต่อศาลในการขอถอนการประกันตัว นางสาวอัญชลี ไพลีรักษ์ และนายสำราญ รอดเพชร ในกรณีเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ อีกส่วนหนึ่งด้วย

สำหรับผู้ที่ก่อความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ ทั้งในกรณีการเข้าไปบุกยึด กรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้งศาลากลางในจังหวัดต่างๆ ก็จะมีการดำเนินการ ยื่นขอหมายจับต่อศาลในลักษณะเดียวกันนี้ด้วย

นอกจากนั้น แม้แกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ถึงขั้นบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ หรือสถานที่ที่มีการประกาศห้ามไว้ แต่หากเป็นการปิดล้อมไม่ให้ข้าราชการหรือประชาชนเข้าออกหน่วยงานได้ตามปกติ ก็ถือว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 กรณีข่มขืนใจไม่ให้ผู้อื่นกระทำการหรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับผู้ที่สั่งการยั่วยุ ชักจูง ให้ผู้ชุมนุมไปทำการปิดล้อมหรือบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ หรือว่าเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 ถือว่าต้องรับโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดนั้นทุกกรณี

และขอความร่วมมือไปยังข้าราชการทุกภาคส่วน และเจ้าหน้าที่ของ ทุกหน่วยงาน ร่วมกันปกป้องรักษาสถานที่ตั้งซึ่งเป็นสถานที่ทำงาน และต่อต้านการกระทำความผิดกฎหมายต่างๆ โดยยืนหยัดที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งอาจปรับรูปแบบการปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความเป็นปกติสุข โดยขอให้หลีกเลี่ยงการปะทะหรือกระทบกระทั่งจนทำให้เกิดการสูญเสีย

ส่วนในด้านเจ้าหน้าที่เน้นย้ำให้ใช้ความอดทนอดกลั้นต่อความยั่วยุต่างๆ เพื่อให้รัฐบาล และส่วนราชการต่างๆซึ่งมีภารกิจต้องบริหารประเทศ และการบริการประชาชน ในรูปแบบต่างๆ ดำเนินต่อไป เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศต้องได้รับความเดือดร้อน อันเนื่องมาจากการกระทำผิดกฎหมายของคนบางกลุ่ม

ศอ.รส.ยืนยันว่า การดำเนินการต่างๆ ในการดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองนั้นจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและความชอบธรรม และจะหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกกรณี โดยเน้นการเจรจาและขอร้องให้ไม่มีการกระทำความผิดกฎหมายต่างๆ และจะปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตลอดจนการพยายามทำทุกวิถีทางที่จะคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น โดยสันติวิธี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ