นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้ออกหมายเรียกแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(กปปส.)รวมทั้งสิ้น 37 คนให้มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานขู่เข็ญเพื่อล้มล้างอำนาจบริหาร หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ (เป็นกบฏ ตามมาตรา 113), ยุยง ส่งเสริมให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย (มาตรา 116), มั่วสุมเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง (มาตรา 215) และหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นผู้แทนรัฐต่างประเทศ (มาตรา 134) เป็นต้น
ดีเอสไอกำหนดให้บุคคลทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมพฤติการณ์ของการกระทำผิด ในวันที่ 26-27 ธ.ค. 56 และวันที่ 2-3 ม.ค. 57 ตามที่ระบุในหมายเรียก ซึ่งได้มีการจัดเตรียมสถานที่ และพนักงานสอบสวนไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาแกนนำแต่ละคนแล้วจะนำตัวส่งศาลอาญา เพื่อขอศาลออกหมายขังทุกคน โดยจะคัดค้านการประกันตัว เพราะทุกคนล้วนแต่กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ก็ยังไม่งดเว้น หรือเลิกละการกระทำผิด หากได้รับการปล่อยตัวไปก็จะไปร่วมกระทำผิด ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองอีกอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หากครบกำหนดนัดหมายแล้ว มีแกนนำที่ตกเป็นผู้ต้องหาคนใดไม่มาตามกำหนดนัด ก็จะดำเนินการขอศาลอาญาออกหมายจับในทันที และหากแกนนำคนใดนำมวลชนมาปิดล้อม DSI อีก นอกจากจะดำเนินคดีเพิ่มเติมฐานบุกรุกสถานที่ราชการแล้ว ก็จะดำเนินคดีฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรมอีกด้วย
"ขณะนี้แกนนำที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้ง 38 คน จะได้ใช้มวลชนเป็นโล่มนุษย์เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าจับกุม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็จะหลีกเลี่ยงไม่เข้าปะทะ เพราะจะทำให้ประชาชนอาจจะบาดเจ็บ ล้มตายได้ แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ก็จะดำเนินการทันที เพราะคดีมีอายุความถึง 20 ปี"นายธาริต กล่าว