พ.ต.ท.ปรากฏ นาคใหญ่ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.คูคต กล่าวกับอินโฟเควสท์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.50 น.ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่ม กปปส.ที่เคลื่อนขบวนรถรณรงค์ให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ โดยได้ปะทะกับกลุ่ม นปช.ที่ตั้งเวทีอยู่บริเวณอนุสรณ์สถานฯ ซึ่งในที่เกิดเหตุมีเสียงคล้ายปะทัดยักษ์และเสียงปืนดังขึ้น ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นกลุ่มเสื้อแดง 2 ราย โดยยังมีการใช้รถจักรยานยนต์ไล่ยิงกันไปจนถึงท้องที่ของ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์
ก่อนหน้านี้ขบวนรถรณรงค์ได้เคลื่อนมาตั้งแต่รังสิต ผ่านหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ลำลูกกา ถ.เสมาฟ้าคราม
ด้าน พ.ต.อ.ตระกูล เกี่ยวประเสริฐ ผู้กำกับ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.ระหว่างที่มวลชนของกลุ่ม นปช.รวมตัวกันอยู่ที่บริเวณ อ.คูคต มีรถกระบะแรลลี่เชิญชวนรณรงค์ให้คนไปร่วมชุมนุมปิด กทม.วันที่ 13 ม.ค.ของมวลชนกลุ่ม กปปส.ขับผ่านเข้ามาในบริเวณคลองสอง ซึ่งพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่ามีคนร้ายใส่ชุดดำใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ในขบวนแรลลี่ แต่พลาดไปโดนประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องโดนลูกหลงไป 1 ราย หลังจากก่อเหตุแล้วคนร้ายก็หลบหนีไป
รายงานข่าว ระบุว่า จากเหตุปาประทัดยักษ์และยิงใส่กัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย เป็นกลุ่มผู้ชุมนุม 3 คน และเด็กนักเรียนถูกลูกหลงอีก 1 คน ได้แก่ นักเรียนชายอายุ 16 ปี ถูกประทัดยักษ์ที่ขาซ้าย, กลุ่มนปช.ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยรายแรกถูกยิงเฉียดศีรษะ ส่วนอีกรายถูกยิงที่ก้นด้านซ้าย และผู้ชุมนุมของ กปปส.ถูกประทัดยักษ์ที่ข้อเท้า