เลือกตั้ง'57:"จารุพงศ์"เตรียมยื่นหนังสือให้กกต.แก้ปมสมัครรับเลือกตั้ง 28 เขตภาคใต้

ข่าวการเมือง Friday January 10, 2014 17:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งยกคำร้องของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาสามัคคี เขต 7 จ.นครศรีธรรมราช ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้เป็นผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปสมัครได้ในวันเวลาที่กำหนด เพราะถูกกลุ่มผู้ต่อต้านขัดขวาง โดยศาลฎีกาฯ ระบุว่า เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งว่า เมื่อศาลฎีกาฯ มีคำวินิจฉัยออกมาเช่นนั้น ทางพรรคก็จะไปยื่นเรื่องขอรับฟังความชัดเจนจาก กกต.ว่าจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างไร เพราะการให้ว่าที่ผู้สมัครไปร้องต่อศาลฎีกาฯ ก็เป็นคำแนะนำของ กกต.เอง หากไม่มีการขยายเวลารับสมัคร กกต.ก็ต้องดำเนินการให้มีการเลือกตั้งใน 28 เขตที่ผู้สมัครไม่สามารถเดินทางไปสมัครให้ได้ภายใน 180 วันตามที่กฎหมายกำหนด

นายจารุพงศ์ กล่าวว่า การลงคะแนนเสียง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในพื้นที่เลือกตั้งทั้ง 28 เขตดังกล่าวควรต้องเดินหน้าไปพร้อมกับพื้นที่อื่นๆ ด้วย ซึ่งต้องถาม กกต.ว่าจะดำเนินการเรื่องการลงคะแนนเสียง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในพื้นที่ 28 เขตที่มีปัญหาอย่างไรและต้องมีเหตุผลและข้อกฎหมายรองรับด้วย

นายจารุพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของ กกต. และ กกต.ก็ต้องมีความชัดเจน รวมถึงเหตุและผลที่รับฟังได้เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ด้วย ไม่ควรอ้างว่าไม่สามารถจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย หากอ้างเช่นนี้ถือว่ารับฟังไม่ขึ้น รวมไปถึงไม่ควรนำสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 13 ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) มาเป็นข้ออ้างด้วย เพราะเป็นการกระทำที่ไม่มีกฎหมายรองรับ

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไตสวนพยานในคดีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาทนั้น การที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าโครงการทั้งหมดโดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงยังไม่เหมาะสำหรับประเทศไทยนั้นต้องชี้แจงว่าโครงการเหล่านี้เป็นโครงการที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอเป็นนโยบายต่อประชาชน เมื่อประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาแสดงว่าประชาชนต้องการโครงการเหล่านี้จึงต้องดำเนินการ ดังนั้นศาลไม่ควรก้าวล่วงมาวินิจฉัยว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่ควรพิจารณาว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายฉบับใด รวมไปถึงจะส่งผลกระทบให้เพดานหนี้สาธารณาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่

"เราพร้อมรับฟังคำวินิจฉัยของศาล หากชัดเจนว่าผิดกฎหมายข้อใด แต่ไม่ใช่เรื่องมาบอกว่าเหมาะสมหรือไม่ ดังนั้นขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังคำวินิจของศาล และต้องดูด้วยว่าคำวินิจฉัยที่ว่าจะทำให้ประเทศเดินหน้าอยู่กับที่หรือถอยหลัง" นายจารุพงศ์ กล่าว

นายจารุพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ตั้งคณะทำงาน 6 ชุด เตรียมการรับมือการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ว่า การตั้งคณะกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรง และขอเรียกร้องไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมที่ให้ชุมนุมโดยสันติปราศจากอาวุธตามที่แกนนำได้ประกาศเอาไว้ และยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างแน่นอน และหากมีความรุนแรงเกิดขึ้นก็ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากทางฝั่งรัฐบาล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ