นาย
วิชา มหาคุณ กรรมการ
ป.ป.ช.ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ
ป.ป.ช.เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ
ป.ป.ช.มีมติให้รวมพิจารณากรณี น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.
กลาโหม ในฐานะประธาน
คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) ละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งการดำเนินโครงการรับ
จำนำข้าว อันเป็นมูลความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น และกรณีที่ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องซึ่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวม 146 คน ร้องขอให้ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่ง ในการดำเนินนโยบายรับ
จำนำข้าวส่งผลขาดทุนกระทบต่อการส่งออกข้าว ระบายข้าวแบบจีทูจีไม่เป็นความจริงอันเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
"ทั้งสองเรื่องจึงเป็นกรณีกล่าวหาในประเด็นเดียวกัน คือการดำเนินนโยบายจำนำข้าวที่ไม่ถูกต้องก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อประเทศชาติ และไม่ระงับยับยั้ง อันอาจเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติให้รวมเรื่องทั้งสองเพื่อไต่สวนในคราวเดียวกัน โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่งมีศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ และนายประสาท พงษ์ศิวาภัย เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติให้ดำเนินการไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว อันเป็นมูลความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น เพิ่มเติมจากการแจ้งข้อกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ รวมทั้งผู้ดำเนินการเจรจา ผู้รับมอบอำนาจ รวมทั้งสิ้น 15 ราย กรณีทุจริตขายข้าวในสต็อกของรัฐบาลแบบรัฐต่อรัฐ(G to G)กับจีน
อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์:
[email protected]