ฉะนั้น จึงเป็นอำนาจหน้าที่โดยเด็ดขาดของ กกต.ที่จะจัดการเลือกตั้งให้ลุล่วง โดยอาศัยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 จะให้รัฐบาลออกพ.ร.ฎ.มาซ้อนพ.ร.ฎ.ไม่ได้ เพราะไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
"อยากถามว่าเป็นกับดักที่ กกต.ชุดนี้วางไว้หรือไม่"นายพร้อมพงศ์ กล่าวอย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 ก.พ.ที่ กกต.จะเชิญตัวแทนรัฐบาล ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ไปร่วมหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อหาทางออกนั้น คิดว่าถ้า กกต.เปิดใจรับฟังผู้เชี่ยวชาญ เช่น อดีต กกต.อย่าง นางสดศรี สัตยธรรม นายประพันธ์ นัยโกวิท ก็น่าจะมีทางออก มากกว่าที่จะฟังแต่คนที่มีทัศนคติต้องการเลื่อนเลือกตั้งอย่างนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ทั้งนี้ อยากให้ กกต.ทั้ง 5 คนประชุมร่วมกันและมีมติออกประกาศรับรองคุณสมบัตรผู้สมัครส.ส. 28 เขตเลือกตั้งที่สมัครไม่ได้ และกำหนดวันลงคะแนนออกมา มิฉะนั้น กกต.จะต้องรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง เพราะมีคนไปฟ้องร้องเอาผิดไว้แล้ว