(เพิ่มเติม) เลขาฯ ป.ป.ง.เผยอาจมีคำสั่งห้ามท่อน้ำเลี้ยงทำธุรกรรมทางการเงินเร็วๆ นี้

ข่าวการเมือง Wednesday February 12, 2014 13:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง) แถลงว่า ตามที่ศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของบุคคลและนิติบุคคลที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)นั้น

ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งเร็วๆ นี้ คาดว่าจะเสนอรายชื่อบุคคลหรือนิติบุคคลเพื่อสั่งห้ามไม่ให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลหรือนิติบุคคลดังกล่าว และจะเรียกให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อไป

ทั้งนี้ หากมีการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว จะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แถลงในนามศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.)ว่า ศรส.ขอยืนยันว่ายังไม่เคยประกาศรายชื่อกลุ่มทุนที่สนับสนุนการชุมนุม กปปส.ในลักษณะท่อน้ำเลี้ยง นอกจากแกนนำ กปปส.ทั้ง 58 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาแล้วเท่านั้น ส่วนบุคคลอื่นยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาตรวจสอบของคณะทำงานที่ ศรส.ตั้งขึ้น ได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) และกรมสรรพากร ซึ่งจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นอกจากนี้ ศรส.ยังมีมติให้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งใหม่ในช่วงเดือนเม.ย.นี้เป็นไปด้วยความสงบและเรียบร้อย โดยมีตำรวจ ทหาร และกรมการปกครอง รวมเป็นคณะทำงาน และมีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อารี อ่อนชิต เป็นหัวหน้าคณะทำงาน

ทั้งนี้ ยังได้ชี้แจงถึงตามที่ปรากฏภาพคลิปการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมนั้น ศรส.ได้ตรวจสอบแล้วเป็นภาพคลิปตัดต่อ ทำให้ดูเสมือนว่าเป็นการเข้าตรวจค้นที่ไม่เหมาะสม ศรส.ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นตามหมายค้นของศาลโดยถูกต้องและกระทำโดยเหมาะสมกับสถานการณ์แล้ว เพราะทางการสืบสวนพบว่ามีการ์ดที่มีอาวุธของนายสนธิญาณ หลบซ่อนอยู่ด้วย จึงต้องเข้าค้นตามยุทธวิธีซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย

นอกจากนี้ จากการเข้าตรวจสอบสถานที่การชุมนุมของแกนนำ กปปส. ขณะนี้พบว่าบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล กปปส.ได้ใช้เป็นที่หลบซ่อนของแกนนำที่ถูกออกหมายจับ โดยมีการ์ดซึ่งมีอาวุธร้ายแรงคุ้มกันอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะมีการจัดทำบังเกอร์ในลักษณะป้อมค่ายแข็งแรง และมีช่องในลักษณะใช้ยิงอาวุธปืนออกมายังเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าจับกุมด้วย

นายธาริต กล่าวด้วยว่า จากข้อมูลการตรวจสอบของหน่วยงานด้านความมั่นคง ปรากฏมียอดผู้ชุมนุมของ กปปส.สูงสุดเมื่อคืนวานนี้ ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ที่ประมาณ 4,060 คน ซึ่งได้ลดน้อยลงเป็นลำดับอย่างต่อเนื่องทุกวัน

"ศรส.ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความร่วมมืองดการเข้าร่วมชุมนุม การสนับสนุนด้านการเงิน และการช่วยเหลือต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ด้วยดี" นายธาริต กล่าว

พร้อมกันนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค ได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. และแนวร่วมกรณีร่วมกันกระทำผิดด้วยการขัดขวางการเลือกตั้งด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดโดยเฉพาะภาคใต้ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนคดีประเภทขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ 152 คดี คดีประเภทเป็นเจ้าหน้าที่ กกต.จงใจละทิ้งหน้าที่ไม่จัดการเลือกตั้ง 105 คดี และศาลได้ออกหมายจับให้แล้วจำนวน 43 คน ส่วนการเปิดสถานที่ราชการต่างๆ ที่เคยถูกปิดไปนั้น ขณะนี้ได้กลับมาเปิดทำการได้ตามปกติแล้ว 45 แห่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ