จุดแรก กลุ่ม คปท.เดินทางไปที่สถานทูตสาธารณประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือถึงเอกอัครราชทูตเพื่อชี้แจงว่าขณะนี้มีกลุ่มคนคิดแบ่งแยกดินแดนไทย เพื่อให้จีนในฐานะเป็นประเทศมหามิตรเข้าใจ พร้อมชี้แจ้งถึงความเสียหายของระบอบทักษิณ เป็นระบอบที่ทำให้เกิดการคอรัปชั่นขนาดที่สุดในประวัติศาสตร์โลกใน 2 ปีนี้ โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าว ซึ่ง คปท.เปรียบเทียบเทียบว่ามีมูลค่าสูญเสียถึง 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่าๆ กับทรัพย์สินของ "มาร์กอส" อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ และ "ซูฮาร์โต" อดีตผู้นำอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ ระบอบทักษิณยังทำให้เกิดการใช้ความรุนแรง โดยกองกำลังไม่ทราบฝ่ายกับผู้ชุมนุม, ทำให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ, นโยบายประชานิยม ทำลายศักยภาพเศรษฐกิจประเทศฯลฯ
หลังจากนั้น คปท.ไปเดินทางไปยังสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยเป็นจุดที่สอง เพื่อยื่นหนังสือผ่านตัวแทนเลขานุการเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำไทย ซึ่งระบุว่าได้ติดตามข่าวสารการชุมนุมที่แสดงออกถึงความรักชาติ และตามระบอบประชาธิปไตยของกลุ่มผู้ชุมนุม และจะนำหนังสือไปนำแจ้งต่อทูตฯ ต่อไป
รายงานแจ้งว่า คปท.ยังจะเดินทางไปยื่นหนังสือยังสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย รวมถึงสมาคมนักข่าวต่างประเทศในประเทศไทยด้วย
สำหรับใจความในหนังสือของ คปท.มีตอนหนึ่งว่า ในโอกาสครบรอบ 4 เดือนของการต่อต้านระบอบทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความแน่วแน่ในการต่อต้านอาชญากรรมของระบอบทักษิณ แต่การต่อสู้ที่ผ่านมาเรายังพบว่าในเหล่านักการทูตและผู้สื่อข่าวต่างประเทศยังมีความเข้าใจผิดหลายประการ จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงและขออธิบายตรรกะบางประการที่จะสร้างความเข้าใจ เช่น โลกตะวันตกสนับสนุนรัฐบาลและระบอบที่ไม่ผ่านการเลือกตั้ง หรือรับการเลือกตั้งที่ไม่สมบูรณ์ ขณะที่พวกเราชาวไทยต้องเผชิญกับรัฐบาลของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ที่แม้ผ่านจากการเลือกตั้งแต่ก็สร้างความเสียหายจากนโยบายประชานิยม เช่น การจำนำข้าว พิสูจน์ได้ว่าเป็นบ่อนทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ที่ผ่านมามหาอำนาจทางตะวันตกสนับสนุนขบวนการต่อต้านรัฐบาลยูเครน หรือเวเนซูเอลาที่เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง โดยยอบรับเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมระบอบประชาธิไตย เพียงเพราะ 2 ประเทศส่งผลดีต่อผลประโยชน์ของตะวันตก แต่กลับประณามการต่อสู้ของพวกเราว่าเป็นการต่อต้านประชาธิปไตย
10 ปีที่ผ่านมาระบอบทักษิณ เปลี่ยนแปลงข้าราชการและกลไกลการบริหารราชการแผ่นดิน รับใช้ฐานอำนาจตัวเอง ด้วยการใช้ช่องว่างอำนาจสั่งการโดยตรง ใช้ญาติมิตรพวกพ้องแทรกซึงตามหน่วยงานต่าง ๆ รวมไปถึงองค์กรอิสระ มีการตั้งกลุ่มอาชญากรรม อดีตนักรบผู้ที่ฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิตส์ และอดีตมาร์กซิสม์ที่อยู่ใต้น้ำเงินของทักษิณสร้างการทุจริตงบประมาณของรัฐครั้งใหญ่ที่สุด แม้มิทราบว่ากลุ่มธนาคารสถาบันการเงินระดับโลกมีส่วนเกี่ยวข้องกับระบอบทักษิณหรือไม่ แต่ในอดีตก็อยากจะเตือนความจำ ว่าระบอบทักษิณในคดีซีทีเอ็กซ์ มีการจ่ายเงินให้กับทางการสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการจะไม่เปิดเผยรายชื่อของข้าราชการไทยที่เกี่ยวข้องกับคดีรับสินบน ขณะที่การก่ออาชญากรรมของระบอบทักษิณ คือ “สังหารปิติภูมิ" คือการก่อการร้ายแบบฉ้อฉล ทำลายล้างรัฐ สร้างความแตกแยก