ศอ.รส.นัดปลัดทุกกระทรวง 24 มี.ค.กำหนดแนวทางดำเนินคดีม็อบปิดหน่วยราชการ

ข่าวการเมือง Friday March 21, 2014 13:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) แถลงผลการประชุมวันนี้ว่า การที่แกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) หรือกลุ่มอื่นใด นำมวลชนไปปิดล้อมสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐต่างๆ โดยมีพฤติกรรมคุกคามให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ออกจากสถานที่ทำงาน โดยใช้มวลชนจำนวน 50-100 คนขึ้นไป ใช้เครื่องขยายเสียง พูดคุกคาม ใช้โซ่คล้องใส่กุญแจ และกระทำการอื่น ๆ เช่น ส่งคนเข้าไปในบริเวณอาคารเพื่อทำให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เกรงกลัว เป็นต้น

ศอ.รส. เห็นว่านอกจากส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐจะต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดฐานบุกรุกแล้ว ยังสมควรต้องดำเนินคดีฐานความผิดต่อเสรีภาพ คือ การข่มขืนใจ นอกจากนี้ยังเป็นความผิดตามประกาศ ศอ.รส. เรื่องห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด และห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ อีกด้วย และเป็นการดำเนินคดีแยกรายครั้งต่างกรรมต่างวาระไป

ทั้งนี้ ศอ.รส.ได้มีหนังสือจากผู้อำนวยการ ศอ.รส. แจ้งถึงปลัดกระทรวงทุกกระทรวงในวันนี้ เพื่อให้ดำเนินการดังกล่าวภายใน 24 ชั่วโมงของการกระทำผิดทุกครั้งไป และให้จัดเจ้าหน้าที่บันทึกภาพแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมที่กระทำความผิดให้ชัดเจนและครบถ้วน เพื่อให้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีด้วย และเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปโดยเรียบร้อยในแนวทางเดียวกัน ผู้อำนวยการ ศอ.รส.จึงกำหนดให้เชิญปลัดกระทรวงทุกกระทรวงมาประชุมโดยพร้อมเพรียงกันในวันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2557 เวลา 14.00 น. ที่ศอ.รส.

นอกจากนี้ ศอ.รส.ได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ว่า ในการดำเนินคดีพิเศษกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส.รวม 58 คน ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันเป็นกบฏ ร่วมกันยุยงให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และความผิดฐานอื่นๆ ที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวพันกันนั้น เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่านายสุเทพ กับพวกผู้ต้องหา ยังมีพฤติการณ์กระทำผิดในเรื่องการขัดขวางการเลือกตั้ง ทั้งวันรับสมัครรับเลือกตั้ง, วันเลือกตั้งล่วงหน้า และวันเลือกตั้งทั่วไปอันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะล้มล้างหรือขัดขวางการใช้อำนาจบริหารของรัฐบาล

ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการรวบรวมพยานหลักฐาน กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับคดีขัดขวางการเลือกตั้ง และขอให้ส่งสำนวนมาเพื่อพิจารณารวบรวมสอบสวนเป็นกรณีต่อเนื่องและเกี่ยวพันกันกับคดีพิเศษ ทั้งนี้ ศอ.รส.ได้กำชับให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการคดีความผิดดังกล่าวโดยรวดเร็วและเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้มีการกระทำผิดในลักษณะนี้อีก

นอกจากนี้ จากการที่แกนนำ กปปส.ได้กล่าวอ้างตลอดมาว่าการชุมนุมของ กปปส.เป็นไปโดยสงบ สันติ และปราศจากอาวุธนั้น บัดนี้ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ปรากฏออกมาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคำกล่าวอ้างของกลุ่ม กปปส.ไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเท็จจริงจากคำให้การของนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือมือปืนป๊อปคอร์นที่กล่าวว่าตนเป็นการ์ด กปปส.ได้รับการฝึกอาวุธและได้รับอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ก่อเหตุมาจากการ์ด กปปส. ซึ่งนายวิวัฒน์ ได้ยอมรับสารภาพพร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ข้อเท็จจริงเหล่านี้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับคำกล่าวอ้างของบรรดาแกนนำ กปปส. ที่ว่าตนชุมนุมอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ศอ.รส.จึงขอเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมชุมนุมและเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของท่าน ส่วนการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ศอ.รส.จะได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว รอบคอบ และเป็นธรรม เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ