ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมได้นำป้ายภาพและแผนภูมิขนาดใหญ่ ระบุถึง เหตุการณ์ 10 เหตุการณ์ ที่ คปท.เชื่อว่ายังลอยนวล โดยยังมีข้อความแสดงเหตุรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง แต่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ได้แก่ เหตุการณ์ 116 วัน เหตุปะทะบริเวณ ม.รามคำแหง, 90 วัน เหตุปะทะไทยญี่ปุ่นดินแดง, 88 วัน เหตุปะทะสะพานชมัยมรุเชษฐ์, 68 วัน ระเบิดเหตุบริเวณ ถ.บรรทัดทอง, 66 วัน เหตุขว้างระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยฯ, 59 วัน เหตุยิงนายสุทิน หน้าวัดศรีเอี่ยม, 53 วัน เหตุปะทะหน้าหลักสี่, 36 วัน เหตุปะทะผ่านฟ้า, 32 วัน เหตุยิงถล่มกปปส.ที่ จงตราด และ 31 วัน เหตุยิงเอ็ม 79 หน้าบิ๊กซีราชดำริ
กลุ่ม คปท.ระบุว่า เหตุการณ์และวันเวลาดังกล่าวถือว่าสวนทางกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ตำรวจให้ความสำคัญ เช่น คดียิงนายขวัญชัย ไพรพนา, เหตุคุกคามของ ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัติ หรือหมวดเจี๊ยบ ที่ตำรวจกลับเร่งทำคดี รวมทั้งคดีหมิ่นสถาบันที่ตำรวจกลับไม่สนใจ
ด้านนิติธร ล้ำเหลือ กล่าวว่า ขณะนี้เห็นแล้วว่ารัฐบาลและระบอบทักษิณเป็นภัยต่อประเทศ ทำให้เกิดความรุนแรง เพราะเหตุที่เกิด หากตำรวจไม่รับใช้ฝ่ายการเมือง เราก็จะไม่กระทบกระทั่งกัน ดังนั้นขอชื่นชมท่านผบ.ตร. นับตั้งแต่มีวันที่มีคำสั่งศาลแพ่ง ตำรวจได้ปฏิเสธคำสั่งของศรส. ที่มีรัฐบาลระบอบทักษิณดูอยู่
"เราอาจกระทบกระทั่งกันกับตำรวจ ผมขออภัยต่อท่าน แต่เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชน ท่านจะไม่ขอโทษก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ท่านเริ่มทำหน้าที่ของท่านตั้งแต่วันนี้ และขอให้ตำรวจตัดสินใจยืนเคียงข้างประชาชน" แกนนำคปท.กล่าว จากนั้น กลุ่ม คปท.ได้เริ่มเคลื่อนขบวนต่อไปยังสถานที่อื่น แต่ยังไม่มีการเปิดเผยเป้าหมาย