โพลเผยปชช.มองการเมืองขัดแย้งนานเหตุผู้นำ 2 ฝ่ายไม่ยอมกัน แนะคนไทยสามัคคี

ข่าวการเมือง Friday April 18, 2014 10:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สวนดุสิตโพล"มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จากกรณีความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมานานอย่างต่อเนื่อง การชุมนุมเคลื่อนไหวของม็อบกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะม็อบคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) กับ ม็อบแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทำให้หลายฝ่ายเกิดความวิตกกังวลว่าทำอย่างไร?จึงจะ “ยุติความขัดแย้ง” ได้

ทั้งนี้ ประชาชนคิดว่า ทำไม? “ความขัดแย้งทางการเมืองไทย" ณ วันนี้ จึงรุนแรงและยาวนาน มาจาก อันดับ 1 ผู้นำของทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ยังไม่สามารถเจรจาหาข้อยุติร่วมกันได้ 34.85% อันดับ 2 รัฐบาลยังแก้ไขปัญหาได้ไม่ตรงจุด ไม่เป็นที่พอใจของกลุ่มที่เรียกร้อง 33.22% อันดับ 3 มีการใช้อาวุธที่ร้ายแรง ถึงขั้นสูญเสียชีวิต 21.82% อันดับ 4 คนไทยยังแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่สมัครสมานสามัคคีกัน 10.11%

เมื่อถามว่าผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปนี้ควรทำอย่างไร? การเมืองไทยจึงจะ “ยุติความขัดแย้ง" ได้ สำหรับกลุ่ม กปปส. จำนวนประชาชน 43.68% เห็นควรชุมนุมอย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง ให้กฎหมายเป็นตัวตัดสิน อันดับ 2 ควรเปิดใจ รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ให้โอกาสรัฐบาลได้แก้ปัญหา มีจำนวน 39.85% อันดับ 3 ควรเรียกร้องในสิ่งที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ ไม่มุ่งแต่ทะเลาะกันไปมา มีจำนวน 16.47%

ขณะที่ทางกลุ่ม นปช. ประชาชน 51.07% มองว่าควรใช้สติ มีเหตุผล คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ อันดับ 2 ควรใช้วิธีการเจรจาแทน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ไม่ปะทะกัน มีจำนวน 33.91% อันดับ 3 เคารพกฎหมาย ไม่ฝ่าฝืนหรือทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มีจำนวน มีจำนวน 15.02%

ในส่วนของรัฐบาล ประชาชน 48.54% มองว่าควรมีความจริงใจ รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายและนำมาแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด อันดับ 2 บริหารงานอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ถูกต้อง ไม่ใช้ความรุนแรง มีจำนวน 30.10% อันดับ 3 ควรเปิดเผยข้อมูล ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ปิดบัง มีจำนวน 21.36%

สำหรับพรรคเพื่อไทย ประชาชน 47.65% มองว่าควรเล่นการเมืองอย่างโปร่งใส ไม่มุ่งแต่โจมตีใส่ร้ายกันไปมา อันดับ 2 ไม่เห็นแก่พวกพ้อง ไม่ยึดติดกับอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง มีจำนวน 28.24% อันดับ 3 ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตามที่เคยสัญญาไว้ มีจำนวน 24.11%

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ประชาชน 57.14% เห็นควรทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่เน้นการโจมตี หรือทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น อันดับ 2 คำนึงถึงส่วนรวม ไม่มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ทางการเมือง มีจำนวน 25.14% อันดับ 3 ควรเล่นการเมืองในสภา เข้าร่วมการเลือกตั้ง ปฏิบัติตามระบอบประชาธิปไตย มีจำนวน 17.72%

ด้านความเห็นประชาชนที่มีต่อทหาร อันดับ 1 จำนวน 41.94% เห็นว่าควรปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา วางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใด อันดับ 2 ต้องติดตามและประเมินสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด มีข้อมูลข่าวสารที่แม่นยำ มีจำนวน 37.79% อันดับ 3 ไม่ยอมให้การเมืองเข้ามาแทรกแซง ปกป้องดูแลประชาชน รักษาความมั่นคงของประเทศ มีจำนวน 20.27%

ส่วนตำรวจ ประชาชน 49.04% เห็นว่าควรมีความยุติธรรม เป็นกลาง สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน อันดับ 2 ไม่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ คำนึงถึงประเทศชาติและประชาชน มีจำนวน 42.31% อันดับ 3 เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดในคดีต่าง ๆ ทางการเมืองมาลงโทษตามกฎหมาย มีจำนวน 8.65%

ในส่วนของประชาชน อันดับ 1 มีจำนวน 64.70% มองว่าคนไทยทุกคนต้องรักและสามัคคีกัน จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันดับ 2 เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่สนับสนุนหรือเข้าร่วมการชุมนุมต่าง ๆ มีจำนวน 25.34% อันดับ 3 มีสติ มีวิจารณญาณ ไม่ฟังความข้างเดียว มีจำนวน 9.96%

ขณะที่นักการเมืองก็ต้องเป็นนักการเมืองที่ดี มีคุณธรรมจริยธรรม ไม่ทุจริต คอรัปชั่น รองลงมาคือ คำนึงถึงประเทศชาติเป็นสำคัญ บริหารบ้านเมืองอย่างเต็มกำลังความสามารถ รวมทั้งให้อภัย หยุดโจมตีกันไปมา ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ร่วมมือร่วมใจกันทำงาน

สวนดุสิตโพล ออกสำรวจความคิดเห็นตามหัวข้อดังกล่าวจากประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 1,357 คน ระหว่างวันที่ 12-17 เมษายน 2557


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ