"นิวัฒน์ธำรง"ยื่นเอกสารชี้แจงข้อมูลสต็อกข้าวให้ ป.ป.ช.เพิ่ม ยันไม่มีสูญหาย

ข่าวการเมือง Friday April 25, 2014 16:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการเดินทางมายื่นเอกสารประกอบการให้ปากคำต่อคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เพิ่มเติมว่า ในวันนี้ได้มีการนำข้อมูลในเรื่องของสต๊อกข้าวของรัฐบาล ในแต่ละฤดูกาลผลิตตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงวันที่ 28 ก.พ.นั้น มีอยู่ประมาณ 19.9 ล้านตัน อยู่ในภาระผูกพันรอการส่งมอบประมาณ 6 ล้านตัน ซึ่งมีข้าวเหลืออยู่ประมาณ 13 ล้านตัน

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการขายข้าว ซึ่งมีทั้งข้าวเก่าตั้งแต่ปี 47 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีการทำสัญญาไว้ 21 ล้านตัน ส่งมอบแล้ว 15 ล้านตัน รอเหลือส่งมอบอีก 6 ล้านตัน และทำรายได้มากว่า 213,500 ล้านบาท

ส่วนกฏเกณฑ์การตั้งราคาในการจำหน่ายข้าวนั้น นายนิวัฒน์ธำรง ชี้แจงว่ากรมการค้าต่างประเทศได้ใช้หลักเกณฑ์เดิมตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และกำหนดราคาโดยพิจารณาจากราคาในประเทศ คู่แข่งในตลาดโลกและค่าเสื่อมสภาพข้าว ซึ่งมั่นใจว่าเป็นหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและมีความเหมาะสม

สำหรับหลักเกณฑ์คิดค่าเสื่อมสภาพข้าวที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯคำนวนไว้นั้น นายนิวัฒน์ธำรง มองว่า เป็นการคำนวณที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง เพราะคิดในอัตราเดียวคือร้อยละ 20 ต่อปี ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ใช้หลักเกณฑ์ตามปีที่เก็บข้าวไว้ เช่น ปีที่ 1 คิดค่าเสื่อมที่ร้อยละ 0-10/ ปีที่2 ร้อยละ 0-20 และปีที่ 3 ร้อยละ 20-30 จึงได้มีการส่งเอกสารให้กับทางป.ป.ช.พิจารณาด้วย

นอกจากนี้ได้มอบเอกสารสัญญาประกันภัย การเช่าโกดังฝากข้าว เพื่อเป็นหลักประกันว่าในสัญญาได้ระบุความรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจน หากข้าวในสต็อกสูญหายหรือเสียหายจากกรณีต่างๆ

"ยืนยันว่า ข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลไม่เคยสูญหาย เพียงแต่ยังไม่ได้ลงบัญชีไว้ ซึ่งเตรียมลงบัญชีตามขั้นตอนต่อไป เพื่อลดการขาดทุน และได้ยืนยันกับทางป.ป.ช.ว่า ข้าวอีก 2.98 ล้านตันไม่ได้สูญหาย ซึ่งเกิดจาการที่ไม่ได้มีการบันทึกบัญชีข้าว ซึ่งเชื่อว่า ถ้ามีการลงบัญชีไว้จะส่งผลให้ดารขาดทุนของโครงการลดลงอีกประมาณ 74,000 ล้านบาท" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว

นอกจากนี้ ได้มีการชี้แจงในกรณีโรงสี บจก.ก้องเกียรติการเกษตร จังหวัดพิจิตร ที่ได้ถูกยกเลิกจากโครงการรับจำนำข้าวกับอคส.ในปี 49 แต่ต่อมาในปี 55 บริษัท แอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด โดยผู้ถือหุ้นรายใหม่แต่ใช้สถานที่เดิม ได้เข้าร่วมโครงการโดยผ่านความเห็นชอบจากอนุกรรมการกำกับการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด กับ อ.ต.ก. และพบว่ามีการทุจริตในเวลาต่อมา ซึ่งปัจจุบันโรงสีดังกล่าวได้ถูกฟ้องร้องและอยู่ระหว่างดำเนินคดี

ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะสรุปข้อมูลทั้งหมดในส่วนการให้ปากคำของตนเองได้ภายในอาทิตย์หน้า แต่ปฏิเสธแสดงความเห็นว่า ป.ป.ช.ว่า หากป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดในต้นเดือนพ.ค.จะถือว่าเป็นการเร่งรีบในการพิจารณาหรือไม่ แต่เชื่อว่า ป.ป.ช.จะให้ความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี

"เรื่องของผมน่าจะสรุปได้ในอาทิตย์หน้า ส่วนเรื่องนายกรัฐมนตรี ผมไม่ทราบ ท่านไม่ได้บอก"นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ