พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้ตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย กรณีเหตุคนร้ายลอบปาระเบิด อาร์จีดีไฟว์ บริเวณแยกพระรามเก้า ทำให้รถเก๋ง 3 คัน และป้อมตำรวจได้รับความเสียหาย เมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยความคืบหน้าจนถึงขณะนี้สาเหตุยังไม่แน่ชัดว่า เกิดจากประเด็นใด แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจเป็นระเบิดที่มีผู้นำมาทิ้งไว้และรถยนต์วิ่งมาทับ หรือกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันหรือไม่ แต่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการยกเลิกประกาศห้ามออกนอกเคหะสถาน หรือ เคอร์ฟิวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ คสช.จะยกเลิกเคอร์ฟิว ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้รายงานไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช.ตามลำดับขั้นแล้ว และเชื่อว่ายกเลิกประกาศเคอร์ฟิวของ คสช.จะทำให้บรรยากาศภาพรวมดีขึ้น แต่หาก คสช. พบความเคลื่อนไหวที่เป็นผลต่อความมั่นคง คสช. ก็อาจจะพิจารณาประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่นั้นๆ เพิ่มได้
ขณะที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา ช่วยราชการกองบัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า ในกรณีที่มีกลุ่มบุคคลที่นัดรวมตัวกัน ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้าน คสช.ซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลุ่มที่ถูกว่าจ้างให้ออกมาเคลื่อนไหว และกลุ่มที่มีอุดมการณ์ จึงขอเตือนไปว่า หากมีการกระทำผิดกฎหมายจะต้องถูกจับดำเนินคดี โดยตำรวจจะมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบบันทึกภาพกลุ่มบุคคลเหล่านั้นไว้เป็นหลักฐาน และยืนยันว่าการจะดำเนินคดีจะดูจากเจตนาของผู้กระทำผิดว่า ต้องการให้เกิดผลทางการเมืองหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพธนบัตร ที่มีการดัดแปลงข้อความที่ไม่เหมาะสมทางโซเซียลเน็ตเวิร์ค ถือว่า เป็นความผิดตามกฎหมายเช่นกัน จึงขอเตือนกลุ่มบุคคลที่มีการกระทำ หรือเผยแพร่ภาพลักษณะนี้ให้ยุติการกระทำดังกล่าว ขณะที่ตำรวจจะทำการสืบสวนเรื่องนี้ต่อไป