คสช.แจงทูตทหาร 25 ประเทศจัดเลือกตั้งในปี 58 หลังมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร

ข่าวการเมือง Wednesday July 9, 2014 15:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าว แจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ปณต แสงเทียน เจ้ากรมข่าวทหารบก พร้อมทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เชิญผู้ช่วยทูตทหาร 25 ประเทศ เข้ารับฟังการชี้แจงการดำเนินงานของ คสช.เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับโรดแมพการบริหารประเทศของ คสช.ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ การนำร่างธรรมนูญชั่วคราวขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายและบังคับใช้ แผนงานก่อนเข้าสู่ระยะที่ 2 คือจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี และตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ รวมไปถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ส่วนระยะที่ 3 คือ การบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเสร็จสิ้นภายในปี 2557 ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งในปี 2558

นอกจากนี้ คสช.ยังชี้แจงกรณีข้อกังวลของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยกรณีที่ คสช.ตั้งคณะอนุกรรมการติดตามการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งยืนยันกับผู้ช่วยทูตทหารว่า ไม่ใช่การปิดกั้นแต่เป็นการติดตามรายงานข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้ดำเนินการแก้ไข ปราศจากการบิดเบือนจนนำไปสู่การเกลียดชัง

ส่วนกรณีการเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย ในต่างประเทศนั้นถือว่าแต่ละประเทศมีข้อจำกัดในตัวอยู่แล้ว และเชื่อว่าส่วนใหญ่สามารถแยกแยะได้ โดยไม่ให้ความสำคัญ หรือเชื่อถือ และไม่อยากให้มีการขยายผลจนเกินเหตุ ขณะที่การออกหมายจับนายจักรภพ เพ็ญแข ในข้อหาเกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม เป็นไปตามพยานหลักฐาน เช่นเดียวกับการถอนพาสปอร์ตของกลุ่มคนเสื้อแดง 6 คน ซึ่งหลังจากนี้จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อจำกัดของการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ

นอกจากนี้ คสช.ยังชี้แจงว่า ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คสช.ได้เชิญ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ และนายวีระ สมความคิด มาทำความเข้าใจเรื่องการเคลื่อนไหว และได้ปล่อยตัวกลับไปแล้ว เพราะ คสช.ได้ขอความร่วมมือทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่เข้าข่ายกิจกรรมทางการเมือง หากไม่ทำตามก็จะถูกเชิญมาพบ

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษก คสช.แถลงภายหลังการชี้แจงผู้ช่วยทูตทหาร 25 ประเทศว่า หลายประเทศสอบถามเรื่องการเข้ารายงานตัวและควบคุมตัวบุคคลต่างๆ ซึ่ง คสช.ยืนยันว่า ขณะนี้ไม่ค่อยมีการเรียกรายงานตัวและบุคคลที่เข้ารายงานตัวได้รับการปล่อยตัวทั้งหมดแล้ว ส่วนกรณีนายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน ซึ่งถูกตำรวจจับกุมอีกครั้งนั้น เป็นการดำเนินการของหน่วยในพื้นที่ เพราะพบการกระทำที่เข้าข่ายความผิด ไม่ใช่คำสั่งของ คสช. ส่วนจะมีการตั้งข้อหาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน ขณะที่บุคคลซึ่งมีหมายจับ แต่หลบหนีในต่างประเทศ เป็นหน้าที่ของตำรวจกับอัยการสูงสุดที่ต้องติดตามต่อไป

นอกจากนี้ ผู้ช่วยทูตทหารยังสอบถามถึงความเป็นไปได้ที่ คสช.จะให้ตัวแทนต่างชาติเข้าร่วมในสภาปฏิรูป ซึ่ง คสช.ชี้แจงว่า ประเด็นนี้จะพิจารณาอีกครั้ง เพราะต้องรอเข้าสู่แผนระยะที่ 2 อีกทั้ง คสช.มีแผนดำเนินการอยู่แล้ว

ขณะที่ผู้ช่วยทูตทหารจากประเทศอังกฤษได้สอบถามเรื่องการทำลายอาวุธสงครามที่จับกุมได้ ซึ่ง คสช.ชี้แจงว่า ต้องรอให้กระบวนการทางคดีสิ้นสุดลงก่อนจึงจะดำเนินการ เพราะอยู่ในแผนงานที่วางไว้แล้ว และจะเชิญผู้ช่วยทูตทหาร มาติดตามการทำลายในช่วงเวลาต่อไป

พ.อ.วินธัย ระบุด้วยว่า ล่าสุดทีมโฆษก คสช.ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่า ขณะนี้ทางการเวียดนามได้ปลดล็อคการออกประกาศเตือนพลเมืองเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะเห็นว่า สถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับรัฐวิสาหกิจ หรือ ซุปเปอร์บอร์ด ครั้งแรกเพื่อหารือกรอบนโยบายการบริหาร และกำกับรัฐวิสาหกิจให้ดำเนินงานมีประสิทธิภาพและโปร่งใส ขณะเดียวกันจะรายงานความคืบหน้าการพิจารณาโครงการลงทุนมุลค่าเกิน 100 ล้านบาท ของรัฐวิสาหกิจทั้งหมดให้ซุปเปอร์บอร์ดรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคเพื่อหาแนวทางอนุมัติให้เกิดความรวดเร็ว นอกจากนี้จะมีการหารือเพื่อปรับลดการจ่ายผลตอบแทนกรรมการ การจ่ายโบนัสพนักงานให้เหมาะสมมากขึ้น เพราะพบว่ากรรมการมีผลตอบแทนทางอ้อมที่ซ่อนเป็นรายจ่ายของรัฐวิสาหกิจจำนวนสูงมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ