"นโยบายของรัฐบาล คือทำก่อน ทำจริง ทำทันที มีผลสัมฤทธิ์ ยั่งยืน ผมคิดได้ใหม่แล้ว ต้อง จริงใจ จริงจัง และยั่งยืน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานของรัฐบาลนอกเหนืองานด้านการบริหาร จะต้องเน้นเรื่องการปฏิรูป และการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ซึ่งภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว รัฐบาลมีกรอบการทำงานในระยะสั้น แต่มีปัญหาค้างมาหลายปี ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในประเทศอาจจะยังไม่เรียบร้อยทั้งหมด แต่หลายประเทศก็มีความเข้าใจมากขึ้น และเฝ้าติดตามประเทศไทยด้วยความห่วงใย ซึ่งรัฐบาลจะใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส เร่งคิดเร่งทำ เพราะรัฐบาลไม่ได้มาจากพรรคการเมือง ไม่จำเป็นต้องหาเสียง ไม่ต้องทำโครงการในรูปแบบประชานิยม หรือเป็นฐานทางการเมืองแต่อย่างใด และไม่ได้หวังที่จะวางรากฐานเพื่อไปควบคุมรัฐบาลที่จะมีต่อไปในอนาคต
โดยหลังแถลงนโยบายเสร็จแล้ว รัฐบาลจะเรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในแนวทางนโยบายของรัฐบาล ในวันพุธที่ 17 กันยายนนี้ เพื่อให้แต่ละกระทรวงได้จัดทำแผนปฏิบัติการการดำเนินงาน โดยต้องคำนึงถึงความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ และต้องกำหนดหลักค่านิยม 12 ประการไว้ด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายในการทำงานไว้สูง ประชาชนมีความคาดหวังและถือเป็นความท้าทายของคนในชาติ และนานาชาติก็เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของประเทศ โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้ง ต้องสามารถแก้ไขปัญหาให้ได้ทำให้เกิดความเป็นธรรมและเชื่อมั่นของคนในชาติ โดยยืนยันว่า สิ่งที่ตนเองทำนั้นไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่ทำเพื่อคนไทยทุกคนในประเทศ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบและควบคุมการทำงานของรัฐบาล โดยจะไม่มีการปิดกั้นการตรวจสอบแต่อย่างใด
"มีการกล่าวหาผมว่า ผมสั่งปกปิดบัญชีธนาคาร หาว่าผมมีเงิน 28,000 ล้าน ถ้าผมมี ไม่มาอยู่ตรงนี้หรอก แจกชาวนาไปหมดแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สำหรับแนวนโยบายว่าด้วยการป้องการการทุจริตคอรัปชั่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องไมโครโฟนห้องประชุม ครม.ที่มีการกล่าวหาเรื่องการทุจริตนั้น ตนเองได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบแล้ว โดยยืนยันว่า จะมีการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตในทุกโครงการ โดยในขณะนี้มีบริษัทยุโรปแจ้งความประสงค์ต้องการเข้ามีส่วนร่วมในการช่วยตรวจสอบในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล เช่นโครงการบริหารจัดการน้ำด้วย
ส่วนการยกเลิกกฏอัยการศึกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะมีการพิจาณามาตรการลดผลกระทบจากการประกาศใช้กฏอัยการศึกในบางพื้นที่ ที่มีผลต่อการท่องเที่ยวในโอกาสแรกที่จะทำได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงบ่ายจะมีการลงตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย ซี่งได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับคำยืนยันว่า น้ำท่วมปีนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเกิดจากพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำทุกปี ซึ่งได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งไปดำเนินการแก้ไขและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนโดยเร่งด่วนแล้ว
สำหรับนโยบายด้านเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะมีการลงทุนร่วมกับภาคเอกชนเป็นหลัก แต่ต้องคำนึงถึงความโปร่งใสและสร้างบรรยากาศที่ดีในการลงทุน ส่วนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2558 จะต้องกระจายงบประมาณให้ครอบคลุมทุกจังหวัด ทุกภาคอย่างเท่าเทียม ไม่มีการเลือกพื้นที่ และจะมีการกำหนดให้มีการรายงานความคืบหน้าการทำงานด้านเศรษฐกิจ ทุกๆ 3 เดือนเพื่อปรับปรุงนโยบายให้เกิดความเหมาะสม