นายกฯ เผยขับเคลื่อน 5 กลุ่มภารกิจเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบ

ข่าวการเมือง Saturday August 29, 2015 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุการบริหารงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในระยะต่อไปมีนโยบายที่จะดูแลสภาพเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบ โดยแบ่งการขับเคลื่อนเป็น 5 กลุ่มภารกิจหลักที่ต้องขับเคลื่อนสัมพันธ์ไปด้วยกันให้เกิดเป็นรูปธรรม

"ผมทราบดีว่าประชาชนมีความเป็นห่วง จากด้านการข่าวหรือเสพจากสื่ออะไรก็แล้วแต่ และกังวลในสภาพเศรษฐกิจในช่วงนี้ หลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยก็ย่อมจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน หรือทางยุโรป สหรัฐอเมริกา ก็มีปัญหากันพอสมควร ซึ่งปัจจัยภายในประเทศของเราที่เกษตรกรต้องประสบกับปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจขณะนี้อาจจะนำไปสู่ความไม่เชื่อมั่น และมีผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศ เกิดการชะลอทำนองนี้ ผมอยากให้ทุกท่านเชื่อมั่นในพื้นฐานและศักยภาพของประเทศไทยที่ยังดีอยู่ รัฐบาลจะเร่งเข้าไปแก้ไขในจุดอ่อนต่างๆ เหล่านั้น และวางรากฐานสำหรับอนาคต ประคองเศรษฐกิจให้ผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปได้ และก้าวไปได้อย่างมั่นคง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ

โดยกลุ่มภารกิจที่ 1 จะดูแลช่วยเหลือเร่งด่วนที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อย เพื่อประคองให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติเศรษฐกิจขณะนี้ไปได้ด้วยดี

กลุ่มภารกิจที่ 2 ดูแลเศรษฐกิจท้องถิ่นและภูมิภาคให้เข้มแข็ง เพราะที่ผ่านมาการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอิงกับภาคต่างประเทศ คือ การส่งออกค่อนข้างมาก ต้องปรับสมดุลเพื่อสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจจากภายใน โดยจะเน้นที่การเจริญเติบโตในท้องถิ่น ภูมิภาค การพัฒนา 76 จังหวัดให้มีความเข้มแข็ง สร้างรายได้ให้กับประชาชน และทำให้เศรษฐกิจของประเทศหมุนเวียนและขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น การส่งเสริมการท่องเที่ยว การทำกิจการเพื่อสังคม การผลิตสินค้า OTOP เพื่อจะสร้างความเข้มแข็งให้วิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ รวมถึงเรื่องการส่งเสริมตลาดนัดชุมชน เป็นต้น

กลุ่มภารกิจที่ 3 มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพสินค้าผ่านการส่งเสริมการแปรรูป/การทำ packaging ให้กับสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ของ SMEs หรือแม้แต่สินค้าอุตสาหกรรม ที่จะต้องมีการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ต้องมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อันจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ผลิตสินค้า และจะช่วยทำให้เราสามารถแข่งขันกับสินค้าต่างประเทศได้ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่นให้ตรงกับความต้องการและเพิ่มขีดความสามารถ องค์ความรู้ให้กับแรงงาน ทั้งในภาคเอกชน และภาคบริการ

กลุ่มภารกิจที่ 4 จะเป็นการส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการวางรากฐานอนาคตเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ให้เชื่อมโยงภูมิภาคต่างๆ เหล่านั้นเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจจะทำให้เร่งการเจริญเติบโตของเราไปสู่ภูมิภาคและภายในประเทศให้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยจะมีการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมเป็น Cluster ที่ควรจะส่งเสริมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งการลงทุนนี้จะสัมพันธ์กับการพัฒนาท้องถิ่นที่จะต้องดำเนินการคู่ขนานกันไป

และกลุ่มภารกิจที่ 5 ด้านการต่างประเทศ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน และการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

"ผมอยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจว่า รัฐบาลตั้งใจอย่างเต็มที่ และการดำเนินการทั้งหมดที่กล่าวมา จะต้องเป็นไปอย่างมีธรรมาภิบาล และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืนเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือการวางรากฐานเพื่ออนาคต ที่มุ่งสู่การลงทุนในภูมิภาคและท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งให้ทุกจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เพราะเมื่อท้องถิ่นเข้มแข็ง ทุกจังหวัดเข้มแข็ง ความเหลื่อมล้ำก็ลดลง ประเทศย่อมเจริญเติบโตไปด้วยความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนด้วยตัวเอง ผมอยากให้พี่น้องประชาชนมีความเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล ทั้งในช่วงที่ผ่านมาและช่วงนี้ และเชื่อมั่นในศักยภาพประเทศไทยของเรา และร่วมมือร่วมใจพัฒนาประเทศไปด้วยกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ