นายกฯ แนะตั้งคณะทำงานร่วมแม่น้ำ 5 สายกำหนดกติกาขับเคลื่อนปฎิรูปประเทศช่วงต่อไป

ข่าวการเมือง Wednesday October 28, 2015 13:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวเปิดการประชุมแม่น้ำ 5 สาย โดยระบุว่า วันนี้ถือเป็นการรวบรวมบุคลากรที่เป็นมันสมองของประเทศ และเชื่อว่าทุกคนตั้งใจทำให้ประเทศปลอดภัย และต้องทำความเข้าใจร่วมกันในการกำหนดกติกาประเทศในวันข้างหน้า ให้มีความเป็นเอกภาพ ให้ประเทศมีความสุขและมีอนาคตและเป็นการทำเพื่อคนไทยทั้งหมด ไม่ไช่เพื่อคนใดคนหนึ่ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยติดกับดักประชาธิปไตย แต่ต้องหาแนวทางให้กลับไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงซึ่งถือเป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นจึงต้องขอเรียกร้องให้ทุกคนช่วยกันรักษา 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัติรย์ ให้มีความปลอดภัย ประชาชนมีความสุข วันนี้สถานการณ์บ้านเมืองหลายเรื่องดีขึ้นกว่าเดิม และเชื่อว่าไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ แต่ต้องยอมรับสถานการณ์ปัจจุบันมีความแตกต่างจากอดีตที่ความขัดแย้งเกิดจากทหารขัดแย้งกับประชาชน แต่สถานการณ์วันนี้กลับเป็นการทะเลาะเรื่องประชาธิปไตยของประชาชน ดังนั้นอย่าเอาปัญหาความขัดแย้งมารวมกัน และจะต้องหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยขณะนี้เข้าสู่โรดแมพระยะที่ 2 และส่งต่อไปในระยะที่ 3 คือ รัฐธรรมนูญและนำไปสู่การเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ผ่านมาตลอด 10 ปี ประเทศมีความขัดแย้งมาโดยตลอด และไม่สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ หากวันนี้ตนเองไม่เข้ามาประเทศก็ล้มไปแล้ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เรียกร้องอยากให้คนที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้วหนีไปต่างประเทศ กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อกลับมาพิสูจน์ตัวเอง และเลิกบิดเบือนข้อเท็จจริง และตนเองไม่ต้องการสร้างปัญหาใหม

"ประเทศเราเหมือนมีแม่น้ำประชาธิปไตยขวางอยู่ และทุกคนพยายามข้ามแม่น้ำอยู่ วันนี้คสช. รัฐบาล สปท. กรธ. เป็นสะพานข้ามน้ำอันนี้ ข้ามความขัดแย้งไปให้ได้ บางคนพร้อมข้ามไปด้วยกัน บางคนชอบจะลุยน้ำ บางคนก็จะว่าย มันก็ตายอยู่ข้างล่างนั่นแหละ ต้องเอาทุกคนมาขึ้นสะพานให้ได้ ข้ามความขัดแย้งให้ได้ วันนี้จะต้องไม่ให้ความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก"พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นักการเมืองที่จะเข้ามาเป็นผู้นำจะต้องเปลี่ยนแปลงความคิดใหม่ ให้ประเทศไปข้างหน้ามีอนาคต ไม่ไช่กลับไปที่เดิม โดยต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชนทุกคนไม่ใช่ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ชี้แจง ระยะเวลาการทำงานตามโรดแมพ 6-4-6-4 ว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกคนที่ตั้งใจทำงาน ต้องยอมรับว่า ทุกคนที่ทำหน้าที่ก็เจ็บตัวและมีบาดแผล พร้อมทั้งย้ำว่า ตนเองไม่ใช่ต้องการสืบทอดอำนาจเหมือนที่นักการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ แต่จะอยู่เท่าที่จำเป็น และการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ใช่งานที่สบาย แต่ต้องทำงานเพื่อประชาชน 70 ล้านคน ไม่ใช่ 12 หรือ 16 ล้านคน และทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุข

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังพูดถึงการใช้อำนาจมาตรา 44 ว่า ใช้บังคับเพื่อดูแลความเรียบร้อย และไม่เคยใช้ไปรังแกใคร และขอเตือนผู้ที่จะออกมาสร้างความเดือนร้อน ความวุ่นวาย ว่าอย่ากระทำผิดกฏหมาย และอย่าเพิ่งมาเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะวันนี้ตนเองถืออำนาจรัฏฐาธิปปัตย์อยู่ ซึ่งวันนี้เริ่มมีคนไม่กลัว และออกมาแถลงข่าวทั้งที่ยังมีคดี ขอให้ระวังและอย่าทำเช่นนี้อีก โดยย้ำด้วยว่า รัฐบาลนี้มีนโยบายในการปกป้องสถาบัน และไม่ควรนำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ซึ่งขณะนี้ยังพบว่าการกระทำความผิดมาตรา 112 ผ่านทางสื่อโซเซียลอยู่

ขณะที่มาตารการช่วยเหลือเกษตรกร ชาวสาวยางพารานั้น รัฐบาลเองไม่สามารถชดเชยเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรได้ เพราะจะผิดข้อตกลงขององค์การการค้าระหว่างประเทศ หรือ WTO โดยจากนี้จะเน้นส่งเสริมการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวมถึงกระตุ้นให้ภาคธุรกิจส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศ

นายกรัฐมนตรี ยังขอให้แยกแยะคำว่า ศูนย์ไซเบอร์และ Single Gateway มีหน้าที่แตกต่างกัน ซึ่ง Single Gateway ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาว่ามีความเป็นได้หรือไม่ที่จะทำ เพราะวันนี้มีเว็ปไชต์ต่างประเทศมีข้อมูลบิดเบือนที่เกี่ยวกับสถาบัน และรัฐไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบหรือควบคุมได้ ส่วนแนวคิดเรื่องกระทรวงไซเบอร์ ในต่างประเทศเกิดขึ้นมานานแล้ว ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันภัยคุยคามใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะนี้ประเทศไทยติดปัญหาเรื่องความไม่เห็นด้วย โดยอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน ทำให้การเดินหน้าเรื่องนี้เป็นไปได้ยาก

อย่างไรก็ตาม การทำงานในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ จะเป็นการทำงานร่วมกันของแม่น้ำทั้ง 5 สาย โดยอยากให้มีคณะกรรมการประสานงานร่วมกัน โดยนำยุทธศาสตร์ของรัฐบาลทั้ง 11 ด้าน และแนวทางที่สปช.วางกรอบการปฏิรูปใน 37 ด้านมาประกอบในการทำงาน เพื่อการขับเคลื่อนงานไปในทิศทางเดียวกัน แก้ไขปัญหาเรื่องที่สำคัญๆของประเทศ และเดินหน้าปฏิรูปที่สามารถเห็นผลในรัฐบาลนี้ และวางรูปแบบเพื่อให้รัฐบาลสามารถสานต่อได้

"วันนี้ต้องขับเคลื่อนประเทศใหม่ สร้างประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง โดยมีทั้งอิฐ หิน ดิน ทราย ซึ่งคือพวกเรา และให้ประชาชนช่วยก่อร่างสร้างประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ ขับเคลื่อนกฏหมายและยุทธศาสตร์ชาติเตรียมการสู่การเลือกตั้งให้ดีที่สุด"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ