นายกฯเผยต้องขับเคลื่อน-เร่งรัดงานทุกด้านด้วยตัวเอง หากจำเป็นจะใช้มาตรา44 เพื่อให้เกิดประสิทธิผลโดยเร็ว

ข่าวการเมือง Saturday June 18, 2016 11:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ" ว่า สำหรับเรื่องการขับเคลื่อนการบริหารราชการและการปฏิรูปปัจจุบันรัฐบาลมีกลไกคณะกรรมการขับเคลื่อนและการปฏิรูป โดยมีรองนายกฯ ทั้ง 6 ท่าน เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ดูแลตามสายงาน อย่างไรก็ตาม ผมก็จำเป็นต้องขับเคลื่อนด้วยตัวเอง โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามงานของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะ ซึ่งอาจจะต้องเป็นวาระสำคัญ เร่งด่วนภายใต้การควบคุมของผมเอง ในฐานนายกฯ และ หน.คสช. ซึ่งอาจจะพิจารณาแก้ไขปัญหา ข้อขัดข้อง ติดขัด ทั้งในด้านกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมาย โดยใช้มาตรการต่าง ๆ และหากจำเป็นก็จะใช้กฎหมายพิเศษ มาตรา 44 ทั้งนี้ก็เพื่อให้นโยบายต่าง ๆ เกิดประสิทธิผลโดยเร็ว

ทั้งนี้ ทุกเรื่อง ก็จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ผมมุ่งหวังแต่เพียง ลดเวลา ลดขั้นตอนทำให้เกิดความรวดเร็ว สุจริต โปร่งใสในการดำเนินการโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเบิกจ่ายงบประมาณ ที่ทำได้ช้าก็เพราะติดขัดกฎระเบียบต่าง ๆ ดังกล่าวไม่ชาประสิทธิภาพของข้าราชการ เขาอยากจะทำนะครับแต่ติดข้อระเบียบต่างๆ ซึ่งเป็นกฎหมายเดิม ๆ อยู่ยังไม่มีการปรับปรุง วันนี้เราจะต้องเร่งรัดกันเพื่อดำเนินการดังกล่าวให้ได้ในช่วงที่กำลังจะเริ่มปฏิรูประยะที่ 1 นี้นะครับ ในเรื่องของขั้นตอนการทำงาน การติดขัดกฎระเบียบ ข้อบังคับ ระยะเวลา ที่ยืดเยื้อมายาวนาน ทำไม่ได้สักที เราจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขต่อไปอย่างรวดเร็ว ผมก็ได้ยกให้เป็นเรื่องสำคัญ

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วันนี้หลายอย่าง เป็นงานนโยบายเราต้องทดลองปฏิบัติให้ได้ก่อน หากมีปัญหา มีข้อเสียหาย หรือติดขัด ก็แก้ไขถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ยกเลิกไป ก็แค่นั้นเอง เป็นงานนโยบาย หากมัวแต่รอกัน รอกฎหมาย ก็เกิดไม่ได้สักอย่าง ประชาชนก็ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง วันนี้เราเข้ามา 2 ปีครึ่งแล้ว หลายอย่างเราทำมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ปีแรก ใช้เวลาปีครึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยกตัวอย่าง เช่นการแก้ไขปัญหาเรื่องการอำนวยความสะดวก การประกอบธุรกิจทั้ง 10 เรื่อง ใช้เวลาทำประมาณปีครึ่ง ก็ทำได้ประมาณ 90% กว่าที่จะสามารถจะไปแข่งขันเขาได้ จะยกระดับ ลำดับของประเทศเราให้ได้ เพียงเรื่องเดียวใช้เวลาปีครึ่ง แล้วยังมีเรื่องที่ต้องแก้ไขปฎิรูปกันอีกเป็นสิบ เป็นร้อย ๆ เรื่องได้ อะไรที่ทำได้เราก็ต้องทำให้ได้ อะไรติดขัดก็มาบอก ผมก็จะใช้อำนาจที่ผมมีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่พยายามไปละเมิดกฎหมายอื่น ๆ กฎหมายค้านกันเองทั้งหมดนั่นแหละ ไม่มีการปรับปรุง ไม่มีกฎหมายในเชิงบูรณาการ ไม่มีกฎหมายในเรื่องของการที่จะทำให้เกิดความเข้าใจ และมีการใช้จ่ายงบประมาณร่วมกันในกิจกรรมอันเดียวกัน ตอนนี้กำลังแก้กฎหมายอยู่ เรื่องของ พรบ. การใช้จ่ายงบประมาณ แล้วก็มีกฎหมายเรื่องการบูรณาการการทำงานด้วย

"เพราะฉะนั้นเราต้องทำ 2 อย่างไปพร้อมกัน อันแรกคือการปรับโครงสร้าง การวางรากฐานให้แข็งแรง ยั่งยืนด้วยกฎหมาย และการปฏิรูปซึ่งอยู่ใน สนช. ต้องใช้เวลา 3 วาระอีก วันนี้ถ้าเรารออยู่ สิ่งที่สองคือ สิ่งที่ประชาชนคาดหวังก็จะไม่เห็นผลในทันที ถ้าเรารออันที่หนึ่งอย่างเดียว เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่รออยู่แล้วไม่มีปัญหามากนัก เราก็สามารที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวผมเองได้ ด้วยอำนาจที่ผมมีอยู่ ทั้งนี้ก็ไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบกับใครทั้งสิ้น"นายกรัฐมนตรี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ