นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฏหมาย กล่าวถึงข้อเรียกร้องของฝ่ายการเมืองที่อยากให้มีการยกเลิกประกาศและคำสั่งต่างๆของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ขอบคุณในความเป็นห่วงจากฝ่ายการเมือง แต่ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามมาตรา 265 ได้รองรับให้ใช้ต่อไปได้ ซึ่งคำสั่ง มาตรา 44 ยังถือว่ามีความจำเป็น ซึ่งไม่ได้ใช้เพื่อเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และไม่ใช้เพื่อกล่าวโทษใคร แต่จะใช้ในมาตรการทางปกครองหรือใช้เมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วน และไม่อาจใช้มาตรการปกติได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา คสช.ได้ลดการออกคำสั่งตามมาตรา 44 มาโดยตลอด เป็นไปในลักษณะที่ว่าเสนอมา 10 ฉบับ รับมา 1 และได้หารือกับ คสช.เกี่ยวกับการพิจารณาเกี่ยวกับมาตรา 44 ที่ประกาศใช้ไปแล้ว บางฉบับจะต้องยกเลิก บางฉบับจะยังคงอยู่ และบางฉบับจะแปลงไปเป็น พ.ร.บ.
ส่วนกรณีที่มีนักการเมืองโจมตีว่าการใช้มาตรา 44 เพื่อสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เป็นการสืบทอดอำนาจของ คสช.ว่า ไม่เป็นเช่นนั้น แต้เป็นความจำเป็นที่จะต้องทำให้องค์กรอิสระใดที่ครบวาระสามารรถเดินหน้าทำงานต่อไปได้ ส่วนที่ยังไม่ครบวาระจะไม่มีการดำเนินการใดๆ โดยยืนยันว่ากระบวนการสรรหาไม่ได้ล่วงเกินในอำนาจของใครและไม่มีการล็อกใดๆ เพราะได้ยึดคุณสมบัติตามกฎหมายลูก
"ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน ถ้าอยากได้อำนาจหรือล้วงลูกอะไรคงต้องรื้อหมดตั้งแต่ ป.ป.ช.แต่เราไม่ยุ่ง สององค์กรที่ทำก็คิดแล้วคิดอีก จนกระทั่งปรึกษา กรธ.และเขียนคุณสมบัติมาให้"นายวิษณุ กล่าว
ส่วนกรณีผู้ว่าฯสตง.ที่จะมีอายุครบเกณฑ์ในเดือน เม.ย.และจะครบวาระเดือน ก.ย.เหมือน คตง. จึงให้ทำหน้าที่ต่อไประหว่างการสรรหาจนถึงเดือน ก.ย. และ คตง.จะเป็นผู้สรรหาผู้ว่า สตง. จึงอยากให้ คตง.ชุดใหม่เป็นผู้ทำหน้าที่ และระหว่างนี้จึงให้รองผู้ว่าฯ สตง.รักษาการไปก่อน
สำหรับข้อเรียกร้องให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า จะต้องสอบถามจากฝ่ายความมั่นคงที่จะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ ซึ่งตนเองไม่ขอแสดงความเห็นในเรื่องนี้