นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะรองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เกี่ยวกับข้อเสนอในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยขอให้ทบทวนการเก็บภาษีกรณีใช้ประโยชน์ทรัพย์สินใช้เป็นที่อยู่อาศัยให้มีการยกเว้นภาษี โดยใช้มูลค่ารวมของทรัพย์สินทั้งหมดในเขตการปกครองท้องถิ่นเดียวกัน เช่น ทรัพย์สินที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยมูลค่ารวมกันในเขตเทศบาลเดียวกันไม่เกิน 50 ล้านบาทได้รับการยกเว้นภาษี และรัฐบาลควรลดภาษีให้กับทรัพย์สินจากการรับมรดก ทรัพย์สินประเภทสถานพยาบาลเอกชน สถานศึกษาเอกชน สวนสัตว์ หรือแหล่งท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรมในระหว่างการพัฒนา
"ควรพิจารณาขอบเขตอำนาจในการกำหนดอัตราภาษีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีที่กำหนดอัตราภาษีสูงกว่าที่รัฐกำหนดไว้ เป็นต้น ทั้งนี้อยากให้ สนช.เชิญตัวแทนของสภาหอการค้าฯ เข้าชี้แจงรายละเอียดต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ด้วย" นายพจน์ กล่าว
ด้านนายพรเพชร กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งตนเองจะนำข้อเสนอเรื่องนี้ให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาต่อไป พร้อมให้ตัวแทนจากสภาหอการค้าฯ ได้เข้ามาชี้แจงด้วย เพราะที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวทั้งเป็นหนังสือและอย่างไม่เป็นทางการเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เรื่องการจัดเก็บภาษีส่งผลกระทบต่อทุกคนที่มีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชน และโรงพยาบาลเอกชนก็ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนมาเช่นกัน และการพิจารณากฎหมายนี้ สนช.ต้องทำอย่างรอบครอบ ขณะนี้มีสื่อวิพากษ์วิจารณ์ว่า สนช.พิจารณา พ.ร.บ.ดังกล่าวล่าช้าอยู่ ซึ่งในความจริงร่าง พ.ร.บ.ใดก็ตามจะมาวัดกันที่ความเร็วหรือช้าไม่ได้
"การพิจารณากฎหมายต้องทำให้ดีที่สุด เพราะหากเกิดความผิดพลาดแล้วจะมาแก้ไขภายหลังจะลำบาก เหมือนกระดุมเสื้อที่ติดผิดเม็ดแรกก็จะผิดตลอด ผมจะให้นโยบายต่อ สนช.ให้พิจารณากฎหมายนี้อย่างรอบคอบที่สุด เพราะผมไม่อยากให้กฎหมายออกมาแล้วมีคนมาร้องเรียนในภายหลัง มาขอแก้ไขในภายหลัง ดังนั้นจึงต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่มีใครอยากดึงงานที่เรารับผิดชอบอยู่ให้มันล่าช้าออกไปอย่างแน่นอน"นายพรเพชร กล่าว