รมว.เกษตรฯ ไม่น้อยใจหากถูกปรับพ้นครม. ยืนยันทำหน้าที่เต็มที่ ชี้เหตุถูกพุ่งเป้าเพราะเป็นคนใกล้ชิด

ข่าวการเมือง Monday November 6, 2017 15:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่เคยสอบถามเรื่องการปรับ ครม. กับตนเอง จนถึงวันนี้ก็ไม่มีการสอบถามแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงพิจารณาด้วยตนเอง แต่ยอมรับว่าปัญหาหาสินค้าเกษตรคนที่ออกมาให้ข้อมูลไม่ใช่เกษตรตัวจริง

ส่วนกรณีการปรับ ครม.ทุกครั้งจะมีการพุ่งเป้ามายังตนเองนั้น มองว่า อาจเป็นเพราะเป็นเพื่อนนายกรัฐมนตรี และเป็นคนใกล้ชิด ส่วนจะถูกปรับออกหรือไม่ ไม่ขอตอบ แต่ตนเองเป็นคนตั้งใจในการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งหลายครั้งไม่เคยประเมินผลงานตนเอง แต่คนอื่นที่มาประเมินก็ขอให้อยู่ในแวดวงการทำหน้าที่ ไม่ใช่นั่งอยู่ส่วนอื่นแล้วให้ข้อมูลที่ไม่จริง ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

พล.อ.ฉัตรชัย ยืนยันว่า ไม่ทราบในเรื่องที่จะปรับลดสัดส่วน ครม.สายทหารลง เพราะนายกรัฐมนตรีไม่เคยหารือเรื่องนี้ ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไม่เคยถามเรื่องนี้ แม้ในช่วงที่ปรับย้ายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรทรวงพาณิชย์มายังกระทรวงเกษตรฯ ก็ไม่เคยสอบถามตนเอง

"ไม่ได้รู้สึกน้อยใจหากถูกปรับพ้น ครม. เพราะส่วนตัวเป็นทหาร และพร้อมที่จะทำหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ ถ้านายกรัฐมนตรีไม่มอบหมายหน้าที่ให้ก็กลับ เพราะอยากพักผ่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ทราบเรื่องนี้ และเคยคุยกันไว้ว่า หลังเกษียณจะไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน โดยที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนเขียนแผน แต่ขณะนี้ถูกฉีกทิ้งไปหมดแล้ว"

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ไม่เคยตำหนิในการทำหน้าที่ แต่ยอมรับว่าการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนยังอ่อน เพราะข้าราชการบางคน ไม่ได้จบทางด้านสื่อสารมาโดยตรง และไม่สามารถสู้เอกชนได้ เช่นเดียวกับรัฐบาลที่ผ่านมารวมถึงรัฐบาลนี้ ที่ยังมีจุดอ่อนด้านการประชาสัมพันธ์ ที่ยังสู้เอกชนหรือคนที่จ้องทำลายไม่ได้ และอยากให้ประชาชนฟังข้อมูลจากทางรัฐบาลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับการทำหน้าที่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่เจอตอหรือปัญหาใดๆ แต่ที่ทำไม่ได้คือ งานบางอย่างช้า และไม่สามารถบังคับเกษตรกรให้ทำตามแผนที่วางไว้ได้ เพราะบางคนไม่เชื่อ ทั้งที่กระทรวงเกษตรฯได้แนะนำ และที่ผ่านมากระทรวงดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เช่น การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ กว่า 7 หมื่นแห่ง ซึ่งเสร็จไปแล้ว และจะเริ่มทำอีก 7 หมื่นแห่ง แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเท่าที่ควร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ