"เพื่อไทย"ออกแถลงการณ์ค้านคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 53/60 ชี้ขัดรธน.-จงใจทำลายพรรคการเมือง เตรียมยื่นศาล รธน.หลังปีใหม่

ข่าวการเมือง Wednesday December 27, 2017 15:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายจาตุรนต์ ฉายแสง, นายวัฒนา เมืองสุข, นายสามารถ แก้วมีชัย ร่วมกันแถลงคัดค้านการออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 53/2560 เนื้อหาระบุว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ข้างต้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ และไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง เป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจ โดยมิได้เคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทำลายระบบพรรคการเมืองและสิทธิเสรีภาพของสมาชิกพรรค เพิ่มภาระให้แก่สมาชิกพรรคเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็น เปิดช่องให้มีการตั้งพรรคการเมือง เพื่อสนับสนุนให้ คสช.และหัวหน้า คสช.ได้อยู่ในอำนาจต่อไป และเมื่อหัวหน้า คสช.ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย การออกคำสั่งดังกล่าวถือเป็นการใช้อำนาจเพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง อันขัดต่อหลักธรรมาภิบาล จึงขอให้ คสช.ได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว รวมถึงประกาศ คสช.ฉบับที่ 57/2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 อันเป็นต้นเหตุแห่งข้ออ้างของ คสช.ในการออกคำสั่งฉบับนี้ด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะได้ยื่นเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยต่อไป

พรรคเพื่อไทยเห็นว่า รัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้ว การแก้ไขเพิ่มเติมต้องกระทำโดย สนช. การที่หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจแก้ไขเพิ่มเติมไม่อาจทำได้ 2.การออกคำสั่งดังกล่าว นอกจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามมาตรา 44 เพราะไม่ได้เป็นไปเพื่อปฏิรูปสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือเพื่อป้องกันการกระทำที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อย ยังถือเป็นการลบล้างกระบวนการตรากฎหมายตามรัฐธรรมนูญ 3.เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพสมาชิกพรรคการเมือง ตั้งแต่การคงข้อห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง กำหนดให้รีเซ็ตสมาชิกพรรค การดำเนินการต่างๆ ต้องได้รับอนุญาตจาก คสช. 4.เป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มการเมืองที่สนับสนุนให้ คสช.และหัวหน้า คสช.สืบทอดอำนาจทางการเมืองต่อไป โดยก่อนออกคำสั่งไม่กี่วันมีบางกลุ่มออกมาเรียกร้องให้รีเซ็ตสมาชิกใหม่ ดังนั้นจึงไม่ใช่เพื่อประโยชน์แก่พรรคการเมืองบนความเสมอภาคเท่าเทียมตามที่กล่าวอ้าง 5.เพิ่มอำนาจให้ คสช.แทรกแซงกระบวนการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองและกระบวนการเลือกตั้ง แทรกแซงการดำเนินการของนายทะเบียนพรรคการเมืองและ กกต. และ 6.มีเจตนาซ่อนเร้นที่จะเลื่อนกำหนดวันเลือกตั้งออกไป เพราะเมื่อถึงเวลาพรรคการเมืองไม่อาจดำเนินการหรือส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ทันก็จะเป็นข้ออ้างของ คสช.ให้เลื่อนการเลือกตั้งได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ