ศาลปกครองสูงสุด นัดอ่านคำพิพากษาคดีสลายม็อบพันธมิตรเมื่อปี 51 วันที่ 19 ม.ค.

ข่าวการเมือง Friday January 12, 2018 15:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลปกครองกลาง นัด 19 ม.ค.61 อ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีที่ นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ กับพวกรวม 250 คน ยื่นฟ้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี 51 บริเวณรอบรัฐสภา ลานพระบรมรูปทรงม้า หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล และบริเวณใกล้เคียง ทำให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจอย่างร้ายแรง ทั้งที่เป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 กรณีจึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยศาลปกครองชั้นต้น (ศาลปกครองกลาง) มีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ฟ้องคดีทุกราย (ยกเว้นผู้ฟ้องคดีที่ 45) และผู้ร้องสอด เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 7 ต.ค.51 ตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 นาฬิกา ได้นำอาวุธปืน วัตถุระเบิดชนิดต่าง ๆ อันมีอันตรายโดยสภาพมาใช้ในการสลายการชุมนุม โดยมิได้ปฏิบัติตามหลักการมาตรฐานของสากลซึ่งต้องเริ่มจากการเจรจาต่อรอง หากไม่สามารถเจรจาต่อรองได้จึงจะใช้มาตรการสลายการชุมนุมจากเบาไปหาหนัก จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อกลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งผู้ฟ้องคดีทั้ง 250 คน และผู้ร้องสอด ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด จึงต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดอันเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้รับการสั่งการให้ปฏิบัติการเพื่อสลายการชุมนุมตามขั้นตอนแผนกรกฎ 48 แต่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ อันเป็นการกระทำละเมิดตามมาตรา 420 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกอบมาตรา 8 มาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ทั้งนี้ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด หากผู้ฟ้องคดีและผู้ร้องสอดรายใดได้รับเงินทดแทนเยียวยาความเสียหายจากหน่วยงานของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 10 มกราคม 2555 ไปแล้วเพียงใด ให้คงสิทธิรับค่าทดแทนความเสียหายที่เหลือตามคำพิพากษาเพียงนั้น และหากภายในสองปีนับแต่มีคำพิพากษาผู้ฟ้องคดี ผู้ร้องสอด รายใดยังคงต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจาการกระทำละเมิดศาลยังสงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไขคำพิพากษาในส่วนนี้เพิ่มเติมได้อีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ