นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ลงสมัครเป็นเลขาธิการ กกต.ว่า ขอไม่แสดงความเห็นส่วนตัวว่าจะเลือกนายสมชัยหรือไม่ อย่างไรก็ตามในการพิจารณาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ กกต. ซึ่ง กกต.รู้จักผู้ที่มาสมัครเป็นเลขาธิการ กกต.ทุกคน ดังนั้นการพิจารณาขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถ แต่ยืนยันได้ว่าแม้นายสมชัยจะลาออกจากการเป็น กกต.แล้ว และยังไม่มี กกต.ใหม่เข้ามา กกต.ชุดเดิมที่เหลืออยู่ 4 คนก็ยังสามารถจัดการเลือกตั้งได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 70 วรรคสอง กำหนดให้ กกต.ชุดเก่าทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ เว้นแต่จะเหลือ 3 คน ก็ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้
ด้านนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า หากมี กกต.เหลือเพียง 3 คนก็สามารถดำเนินการในส่วนที่ไม่ใช่เรื่องสำคัญได้ เช่น การอนุมัติการลา แต่ไม่สามารถออกระเบียบ กกต. ได้
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการใช้มาตรา 44 เพื่อต่ออายุให้กับ กกต.ที่กำลังจะหมดวาระนั้น ตนเองไม่มีความเห็นเพราะไม่ได้เป็นผู้ใช้อำนาจตามมาตรา 44
นายมีชัย ยังกล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่จะจองชื่อพรรคการเมืองได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้ ว่า เป็นการเปิดให้ดำเนินการเพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดังนั้นกลไกในการจัดตั้งจะต้องมีผู้ริเริ่ม การประชุมเพื่อเลือกชื่อพรรค และมีการระดมเงินทุนจากสมาชิกพรรคตามข้อบังคับจึงจะสามารถจดทะเบียนพรรคการเมืองได้ โดยการดำเนินการดังกล่าวไม่ถือว่าขัดคำสั่ง คสช.ในเรื่องห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน