พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มอยากเลือกตั้งว่า รัฐบาลไม่ปิดกั้นการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย พร้อมกับยืนยันว่า ทุกคนสามารถคิดต่างได้แต่ต้องไม่ผิดกฏหมาย และหลังจากนี้จะมีการบังคับใช้กฏหมายให้เข้มงวดขึ้น
"วันนี้ไม่ได้ปิดกั้นเขา แต่ข้อเรียกร้องต่างๆยังเป็นแบบเดิมๆ ตอนนี้กำลังตรวจสอบทั้งหมดว่าการ์ดต่างๆ มีคดีความหรือไม่ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้กฏหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่ว่าจะไปบังคับใช้กฏหมายกับคนที่เห็นต่าง เห็นต่างได้แต่ต้องไม่ผิดกฏหมาย จำคำพูดผมไว้นะ เพราะฉะนั้นการดำเนินคดีต่างๆ ต้องจริงจังมากขึ้น ผมให้ประเทศเสียหายไม่ได้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติการหน้าที่ตามกฎหมาย เพราะหากไม่ปฏิบัติอาจมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
พร้อมกับย้ำว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 62 ไม่สามารถเลื่อนขึ้นมาให้เร็วกว่านี้ได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้การเลือกตั้งต้องล่าช้าจากโรดแมพเดิมก่อนหน้านี้เนื่องจากเป็นปัญหาในขั้นตอนการพิจารณากฎหมาย
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึง การดำเนินคดีกับพรรคเพื่อไทย กรณีที่ออกมาแถลงวิพากษ์วิจารณ์ผลงาน คสช.รอบ 4 ปี ว่า เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องยึดโยงกับการพิจารณาปลดล็อคพรรคการเมือง
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี พอใจผลการทำงานของรัฐบาล และ คสช.ในรอบ 4 ปี โดยเฉพาะการเริ่มต้นการขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปและการวางยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องดูกลไกขับเคลื่อนการปฏิรูปและยุทธศาตร์ชาติให้เกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรี ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนที่ถามว่า ต้องใช้เวลากี่ปีในการบริหารประเทศหลังนายกรัฐมนตรีเคยกล่าวว่าระยะเวลา 4 ปีน้อยเกินไปว่า ให้ไปถามรัฐบาลหน้า