นายกฯ ตัดพ้อตั้งใจทำงานตลอด 4 ปีแต่กลับถูกโจมตี ยันไม่คิดสืบทอดอำนาจ

ข่าวการเมือง Wednesday June 6, 2018 13:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ได้มาทบทวนว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ตนเองกำลังทำอะไรอยู่ นอกจากการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และกำลังคิดว่า ตอนนี้กำลังต่อสู้กับอะไรอยู่ ต่อสู้กับตำแหน่งที่ไม่เคยอยากเป็นมาก่อนในชีวิต เพื่อรักษาอำนาจผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งก็ไม่ใช่ เพราะถ้าส่วนตัวจะทำเรื่องนี้มีอย่างเดียวคือ ทำเสร็จหรือไม่เสร็จ แต่ไม่ได้มุ่งหวังที่จะต่อสู้เพื่อให้ตัวเองอยู่ได้นานขึ้น เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับประชาชน

"การที่ตนเองเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ตนเองพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด คือทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญ มีเกียรติ ทรงคุณค่า แต่ความผิดของตนเองคือ มีความเป็นมนุษย์ ที่มีอารมณ์ โมโห โกรธ"

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่มีการวิจารณ์จะลงจากหลังเสืออย่างไรนั้น ตนเองไม่เคยขึ้นหลังเสือหรือเป็นเสือมาจากไหน ดังนั้นหลังจากนี้จะรอดูต่อไปว่าจะได้รับความร่วมมือมากน้อยแค่ไหน

"ไม่ว่าผมจะอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่อ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องพิจารณา หรือเพราะว่าผมอยากมีอำนาจ ผมไม่เคยคิดว่าผมมีอำนาจ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนกรณีมีการเขียนวิจารณ์จนตำแหน่งนี้ดูตกต่ำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากถามว่าทำไปเพื่ออะไร แล้วอนาคตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นเช่นนี้หรือไม่ ที่ต้องถูกด่า ถูกตำหนิ ให้ร้าย ใช้คำผรุสวาทในทางโซเซียลมีเดีย ดังนั้นต้องช่วยกันแก้ไข

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องของเทคโนโลยีอยากให้มองสองด้าน เนื่องจากโลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากมายจึงมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง แล้วหันมามองว่าเราจะช่วยกันอย่างไรในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การรับข้อมูล การเขียน และโพสต์ส่งต่อข้อมูล ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าดีกว่าการมีดาวเทียมด้วยซ้ำไป หากเราช่วยเฝ้าระวังเรื่องไม่ดี และช่วยกันแก้ไขตามกฎหมาย ไม่มองเฉพาะสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก จึงอยากจะบอกทุกฝ่ายว่า วันนี้อยากให้ช่วยกันทำเพื่อบ้านเมืองสงบเรียบร้อย สร้างสิ่งดีๆ ให้คนรับรู้ มากกว่าทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย และทำลายเสถียรภาพของบ้านเมือง แม้วันนี้บ้านเมืองไม่มีความปั่นป่วนหรือปิดถนน แต่กลับมีการใช้โซเชียลมีเดีย สร้างความเสียหายกับประเทศ

ส่วนการจัดหาดาวเทียมดวงใหม่ของกองทัพนั้น เป็นเพียงการหารือว่ามีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาดาวเทียมเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะต้องคำนึงถึงงบประมาณและปัจจัยอื่นๆ และเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาอีกนาน เป็นไปตามลำดับ โดยยังไม่มีการเสนอเรื่องนี้เข้ามายัง ครม.และขอยืนยันว่าทุกโครงการต้องผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจาก ครม.ทั้งหมด หากยังไม่เข้าสู่ ครม.ถือว่าไม่มีโครงการไหนที่จะทำได้ เพราะก่อนเสนอเข้า ครม.จะมีการตรวจสอบขั้นตอนอีกชั้นหนึ่งว่าเข้าหลักเกณฑ์ เข้าตามข้อบังคับตามกฎหมายหรือไม่ ที่สำคัญต้องสอบถามประชาชนว่ายินยอมหรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ