ว่าที่ ส.ส.เขต 1 บุรีรัมย์ พปช. ยันบริสุทธิ์ไม่เคยแจกเงินซื้อเสียง

          นายประกิจ พลเดช ว่าที่ ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 1 พรรคพลังประชาชน ซึ่งถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ให้ใบแดงพร้อมกับว่าที่ ส.ส.พรรคเดียวกันอีก 2 คน เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจ ตอนแรกไม่เชื่อข่าวที่ออกมา เพราะ กกต.กลางยังไม่ได้เรียกเข้าไปชี้แจงข้อกล่าวหาแต่อย่างใด มีเพียง กกต.บุรีรัมย์ ที่เรียกเข้าไปให้ปากคำ ซึ่งตนก็มีพยานยืนยันว่าไม่ได้แจกเงินซื้อเสียงตามที่มีผู้ร้องเรียน การที่พวกตนทั้ง 3 คน ไม่เคยแจกเงินซื้อเสียงเลย แต่ต้องมาถูกลงโทษแบบนี้ ก็ไม่อยากเรียกร้องอะไรอีก คงพูดได้เพียงว่า ถ้ายังมี กกต.ที่ขาดความเป็นธรรม ก็ไม่ควรจะมี กกต.เลยน่าจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมจะต่อสู้ต่อไป
          ด้านนายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน และนายรุ่งโรจน์ ทองศรี ว่าที่ ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 1 พรรคพลังประชาชน ซึ่งถูก กกต.ให้ใบแดงเช่นกัน กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง และยังรู้สึกสับสนกับข่าวที่ออกมา ตนไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าตนบริสุทธิ์ ไม่ได้กระทำผิด ก็คงไม่โดนใบแดงแน่นอน ประกอบกับยังไม่ได้เข้าไปชี้แจงที่ กกต.กลาง จึงคิดว่าคงจะยังไม่มีการตัดสิน ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป คงต้องรอหารือกับทางพรรคก่อน
          ขณะที่นายโสภณ เพชรสว่าง ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 1 พรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งได้คะแนนอันดับที่ 4 กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าในการเลือกตั้งใหม่ ประชาชนจะให้โอกาสตน ประกอบกับคู่แข่งสำคัญจากพรรคพลังประชาชน ถูกใบแดงทั้ง 3 คน ถือว่าเป็นงานที่เบาขึ้น ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อแผ่นดินจะได้ 2 ที่นั่งในเขตนี้ ในการเลือกตั้งใหม่ เพราะได้คะแนนอันดับที่ 4 และ 6 ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
          นายโสภณ กล่าวอีกว่า อยากฝากขอบคุณ กกต.ที่ให้ความเป็นธรรม เพราะหากผู้ที่จ่ายเงินซื้อเสียงยังคงได้เข้าไปเป็น ส.ส. ประเทศชาติคงไม่พัฒนา อยากเห็นประชาชนเลือก ส.ส.จากนโยบายของพรรค ควบคู่กับพิจารณาจากตัวบุคคลมากกว่าการรับเงินซื้อเสียง หากเป็นเช่นนั้นได้ ประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยในทุกระดับ และปราศจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียงในที่สุด
          ด้านนายเกษม วัฒนธรรม ประธาน กกต.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบสำนวนการร้องเรียนที่ยังค้างอยู่ 19 สำนวน ส่วนมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับการซื้อสิทธิขายเสียง ข่มขู่ สัญญาว่าจะให้ รวมไปถึงการแจกจ่ายวีซีดี โดยจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเข้าที่ประชุม กกต.จังหวัด เพื่อส่งให้ กกต.กลาง พิจารณาให้เสร็จสิ้นก่อนวันเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 13 มกราคม 2551