(เพิ่มเติม) "สมคิด" หนุน 4 รมต.รัฐบาล"ประยุทธ์"ร่วมพรรคพลังประชารัฐ ชี้ยังไม่ถึงเวลาลาออกหวั่นกระทบความต่อเนื่องโครงการภาครัฐ

ข่าวการเมือง Monday October 1, 2018 16:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ 4 รัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดตัวร่วมเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ว่า ทั้ง 4 คนถือเป็นบุคคลที่มีประวัติ การศึกษา และผลการทำงานที่ดี ถือเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ โดยที่ผ่านมามีความตั้งใจทำงานเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากจะมีการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานด้านการเมืองก็ถือเป็นเรื่องที่ดี

อนึ่ง เมื่อวันเสาร์ (29 ก.ย.)ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐได้เปิดตัว นายอุตตม เสาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นเลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรคพลังประชารัฐ

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการเข้ามาทำงานด้านการเมืองในขณะที่ยังอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่นั้นจะเป็นการได้เปรียบคนอื่นหรือไม่นั้น นายสมคิด ชี้แจงว่า ทุกขั้นตอนมีระบบ มีกฎหมายที่สามารถตรวจสอบและติดตามการทำงานทั้งหมดได้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล

"ถือเป็นโอกาสดีที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีมุมมองใหม่ ๆ เข้ามาทำงานด้านการเมืองมากขึ้น" นายสมคิด กล่าว

อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังมีโครงการสำคัญอีกหลายเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ ดังนั้นในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เราจะหยุดดำเนินการไม่ได้ ต้องเร่งดำเนินการ เพราะโครงการทั้งหมดเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานเศรษฐกิจประเทศในระยะต่อไป

พร้อมมองว่า การที่จะให้รัฐมนตรีลาออกในขณะนี้ อาจส่งผลให้ขาดความต่อเนื่องในการผลักดันโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่เป็นส่วนสำคัญมาก โดยนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ได้เข้ามาดูแลโครงการนี้ตั้งแต่ต้น ซึ่งอีกไม่นานโครงการนี้ก็จะเป็นรูปเป็นร่าง ขณะที่นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็สามารถผลักดันงานกระทรวงให้เกิดการตื่นตัวขึ้นมาได้ ช่วยเหลือสตาร์อัพใหม่ๆ ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ก็สามารถสานงานพลังประชารัฐไปได้ด้วยดี และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ถือเป็นมิติใหม่ของการเมืองไทย ที่มีคนมีคุณภาพแบบนี้เข้ามา ดังนั้นเมื่ออยู่ในเวลาราชการก็ทำหน้าที่ไป ส่วนนอกราชการก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัว

นายสมคิด ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ใช่กุนซือของพรรคพลังประชารัฐ แต่หากใครคิดว่ายังใช้ประโยชน์ได้ ก็พร้อมที่จะทำเพื่อบ้านเมืองเท่าที่แรงจะยังมีอยู่

ส่วนที่นายสนธิรัตน์ ระบุว่านายสมคิดเป็นที่ปรึกษาทางใจนั้น เห็นว่าส่วนตัวเป็นที่ปรึกษาทางใจให้กับคนจำนวนมาก เพราะมีลูกศิษย์เยอะ เมื่อใครเข้ามาพบก็จะให้คำแนะนำ ชี้ช่องทางในการดำเนินชีวิตไปในทิศทางที่ดี ส่วนพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นพรรคที่น่าสนใจและมีชื่อเสียงเหมือนพรรคไทยรักไทยในอดีตหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เห็นว่าทุกพรรคเป็นทางเลือกให้กับประชาชนทั้งสิ้น และทุกพรรคเป็นจุดเริ่มต้นที่มาจากความเป็นเพื่อนกัน ไม่มีพรรคไหนที่จะเป็นศัตรูกันและกัน ไม่มีพรรคไหนเป็นพระเอกหรือผู้ร้าย แต่เป็นตัวแทนของประชาชน

"ผมไม่ใช่กุนซือครับ ผมเป็นเพียงอาจารย์สมคิด ใครคิดว่าใช้ประโยชน์ได้ ผมพยายามทำให้บ้านเมือง ทำเท่าที่แรงมีอยู่ ทำตั้งแต่หนุ่มๆ จนแก่ตัวแล้ว" นายสมคิด กล่าว

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอชื่อนายสมคิด เป็นหนึ่งใน 3 รายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐนั้น นายสมคิด กล่าวทันทีว่า "อย่าไปจินตนาการมากไปขนาดนั้น"

นายสมคิด ยังกล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของตัวเองว่าจะร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจหรือวางตัวเองไว้ตรงไหน เพราะอายุมากแล้ว และอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ช่วงนี้เห็นว่าเป็นช่วงเวลาของคนรุ่นใหม่ แต่ไม่ใช่เข้ามาเพื่อหาอำนาจ เพราะไม่ใช่การเมืองที่ดี แต่ต้องมาแล้วทำงานเพื่อบ้านเมืองให้ดีขึ้น ขณะที่รัฐมนตรีที่ร่วมงานกับพลังประชารัฐบางคนเป็นลูกน้อง เป็นลูกศิษย์ ซึ่งเมื่อสนใจทางการเมือง ส่วนตัวก็สนับสนุนให้คนดีๆ เข้ามาเล่นการเมือง เพื่อช่วยให้การเมืองมีคุณภาพ ส่วนจะอยู่พรรคไหนก็แล้วแต่ ซึ่งไม่อยากให้เกิดการเมืองแบบเก่าที่อยู่ในวังวนของความขัดแย้ง และควรจะต้องก้าวข้ามการทะเลาะเบาะแว้ง

นายสมคิด ยืนยันว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐเพื่อสานต่อนโยบายของรัฐบาล เพราะอยู่ที่ประชาชนจะเลือก หรือขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละพรรค ทั้งนี้ เวลาที่เหลืออยู่ หลายคนควรจะให้ความสนใจเรื่องนโยบายต่างๆ ที่จะออกมาแล้วมาแข่งขันกัน เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ