พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยผลสรุปการยื่นคำขอลงทะเบียนองค์กรที่มีสิทธิแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีจำนวนทั้งสิ้น 476 องค์กร จาก 71 จังหวัดทั่วประเทศ หลังกำหนดให้สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดทั่วประเทศเปิดรับลงทะเบียนองค์กรไปเมื่อวันที่ 15-24 ต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สามารถจำแนกออกเป็น 10 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่ม 1 กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง 51 องค์กร, กลุ่ม 2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 15 องค์กร, กลุ่ม 3 กลุ่มการศึกษาและการสาธารณสุข 87 องค์กร, กลุ่ม 4 กลุ่มอาชีพกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทำนา ทำสวน ทำไร่ ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง 79 องค์กร, กลุ่ม 5 กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน อาชีพอิสระ 26 องค์กร
กลุ่ม 6 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม 18 องค์กร, กลุ่ม 7 กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ประกอบธุรกิจ หรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว 35 องค์กร, กลุ่ม 8 กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์ 86 องค์กร, กลุ่ม 9 กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา สื่อสารมวลชน ผู้สร้างวรรณกรรม 38 องค์กร และกลุ่ม 10 กลุ่มอื่น (ผู้ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามย่อมมีสิทธิสมัครในกลุ่มอื่นๆ) 41 องค์กร
เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า จังหวัดที่มีองค์กรที่มีสิทธิฯ ลงทะเบียนมากสุด 6 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 115 องค์กร, สระแก้ว 52 องค์กร, นนทบุรี 18 องค์กร, นครรราชสีมา 14 องค์กร, ราชบุรี 14 องค์กร และสมุทรปราการ 14 องค์กร
ส่วนจังหวัดที่ไม่มีองค์กรที่มีสิทธิฯ มาลงทะเบียนเลย 6 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ, แม่ฮ่องสอน, ระนอง, เลย, สตูล และอุทัยธานี โดยหากมีผู้ประสงค์จะสมัครซึ่งอยู่ใน 6 จังหวัดดังกล่าวนี้ สามารถสมัครในนามของผู้สมัครอิสระได้
สำหรับกลุ่มอาชีพผู้สมัคร ส.ว.มากสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.กลุ่มการศึกษาและการสาธารณสุข 87 องค์กร, 2.กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์ 86 องค์กร, 3.กลุ่มอาชีพกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทำนา ทำสวน ทำไร่ ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง 79 องค์กร, 4.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง 51 องค์กร และ 5.กลุ่มอื่น (ผู้ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามย่อมมีสิทธิสมัครในกลุ่มอื่นๆ) 41 องค์กร
เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 25-29 ต.ค.61 ซึ่งเป็นระยะเวลา 5 วันนับแต่วันปิดรับการลงทะเบียนองค์กรนั้น ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานคร จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติองค์กร และรายงานสรุปผลการตรวจสอบคุณสมบัติองค์กร จากนั้นต้องประกาศผลการลงทะเบียนขององค์กรภายใน 20 วันนับแต่วันปิดรับการลงทะเบียนองค์กร รวมทั้งการพิจารณาคำร้องคัดค้านขององค์กร ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณกลางเดือน พ.ย.61