REPORT: ดีเบตชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กางนโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง

ข่าวการเมือง Monday October 29, 2018 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งคลายล็อคให้บรรดาพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่สามารถดำเนินกิจกรรมได้ โดยกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับงานด้านธุรการ ยังไม่อนุญาตให้มีการหาเสียงก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าบรรยากาศทางการเมืองที่ทุกพรรคกำลังเตรียมตัวเพื่อลงสนามสู้การเลือกตั้งในเดือน ก.พ.62 จะแห้งแล้งจนขาดสีสันซะเลยทีเดียว

พรรคการเมืองเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็ดูจะคึกคักไม่น้อย เนื่องจากครั้งนี้มีการปฏิรูปการทำงานการเมืองเพื่อหวังเป็นตัวอย่างพรรคการเมืองต้นแบบประชาธิปไตย โดยจัดให้มีการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จากสมาชิกพรรคทั่วประเทศทุกคน โดยผ่านแอพพลิเคชั่น D-Elect ตั้งแต่วันที่ 1-3 พ.ย.61 และการลงคะแนนผ่านหน่วยเลือกตั้งด้วยเครื่อง Raspberry pi ที่จัดขึ้นในวันที่ 1 พ.ย.61 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือ ภาคกลาง และวันที่ 5 พ.ย.61 ในพื้นที่ภาคใต้ ภาคอีสาน หลังเวลา 17.00 น.ของวันที่ 5 พ.ย.61 จะปิดลงคะแนนหยั่งเสียงแล้วนับคะแนนพร้อมประกาศผลการหยั่งเสียง โดยผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดจะได้รับการเสนอชื่อให้ที่ประชุมใหญ่เลือกเป็นหัวหน้าพรรคในวันที่ 11 พ.ย.61

สำหรับผู้สมัครชิงตำแหน่งครั้งนี้มีสามคน ประกอบด้วย เบอร์หนึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคคนเดิมที่ลงสนามเพื่อป้องกันตำแหน่ง เบอร์สอง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก และ เบอร์สาม นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรค

นอกเหนือจากผู้สมัครทั้งสามคนจะสามารถเดินสายไปพบปะกับสมาชิกพรรคในจังหวัดต่างๆ เพื่อหาเสียงได้ถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้แล้ว ทางพรรคได้กิจกรรม "ดีเบต 61 ประชาธิปัตย์" คนไทยได้อะไร? เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้สมัครแต่ละคนได้แสดงวิสัยทัศน์ด้วยการตอบคำถามที่มาจากสื่อมวลชนและสมาชิกพรรคเหมือนกัน

  • "อภิสิทธิ์" ชี้รัฐบาลต้องเร่งแก้ปมความเหลื่อมล้ำ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครเบอร์หนึ่ง กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 หากใครรวบรวมเสียงข้างมากได้ก็ควรเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่ควรฝืนเจตนารมณ์ของประชาชน เงื่อนไขการร่วมรัฐบาลอยู่ที่นโยบาย โดยพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนไม่ใช่เป็นรัฐบาลเพื่อให้คนในพรรคได้มีตำแหน่ง

และปัญหาของบ้านเมืองที่จะรีบแก้ไขหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ต้องมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ใช้แนวทางประชานิยม แต่ใช้วิธีประกันรายได้เกษตรกร และประกันราคาพืชผล อีกทั้งมีนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่วนการเจาะฐานเสียงในพื้นที่ภาคอีสานนั้น ที่ผ่านมาถูกขัดขวางและบิดเบือนด้วยการสร้างวาทกรรมว่า ปชป.เป็นของคนภาคไหนภาคหนึ่งนั้น ซึ่งไม่เป็นความจริง คนที่มาชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็ไม่ใช่คนใต้ พรรคมีนโยบายที่ตอบโจทย์คนอีสานอยู่แล้ว

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว หากจุดใดที่เป็นอุปสรรคก็จะปรับแก้ให้สอดคล้องกับนโยบาย แต่ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่าไม่ใช่การดึงอำนาจกลับมา ส่วนรัฐธรรมนูญนั้นยังมีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไขเพราะขัดต่อแผนปฏิรูป แต่ตนเองจะไม่นำมาเป็นประเด็นให้ประชาชนขัดแย้งกัน ต้องหาฉันทามติจากพรรคร่วมรัฐบาล

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงนั้น นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ตนเองเป็นผู้ผลักดันในสมัยเป็นรัฐบาล และไม่ได้มองแค่การพัฒนาเส้นทางในประเทศ ซึ่งหากเป็นรัฐบาลจะไม่ไปเริ่มสร้างที่ จ.นครราชสีมา แต่จะไปเริ่มสร้างที่ จ.หนองคาย เพื่อเชื่อมโยงไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวก่อน

ส่วนโครงการอีอีซีต้องมีมาตรการจูงใจและคงคุณค่าที่พึงมีสำหรับคนไทย เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยมีที่ยืน ไม่ใช่แค่การให้ผลประโยชน์เพื่อดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาเพียงอย่างเดียวแต่ไม่เกิดประโยชน์ต่อคนในชาติเลย

  • "หมอวรงค์" ชูประเด็นปราบทุจริต เน้นการทำงานเป็นทีม

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัครเบอร์สอง กล่าวว่า หากชนะเลือกตั้ง จะต้องกำหนดเกมเล่น จะไม่เล่นเกมที่มีคนกำหนดมาให้ว่าซ้ายหรือขวา ตนเองต้องมีสิทธิเลือกคนมาทำงาน ตนเองเชื่อมั่นการทำงานเป็นทีม ไม่ใช่ผู้นำเดี่ยว และเน้นการกระจายอำนาจให้สาขามีบทบาท โดยมีหลักว่าต้องเป็นคนที่ต้องการปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง ไม่เข้าข้างคนที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ เคารพกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม และไม่ร่วมกับพรรคที่จาบจ้วงสถาบัน

นอกจากนี้ต้องแก้ปัญหาการทุจริตที่บ่อนทำลายทุกเรื่อง และส่งผลกระทบต่อกับนโยบายต่าง ๆ ที่เป็นการช่วยเหลือประชาชน ถ้าเราแก้การโกงได้ เงินทุกบาทจะถึงมือประชาชน และถ้าตนเองเป็นนายกฯ จะให้ออกกฎหมายที่ให้สินบนแก่คนที่ฟ้องว่ามีการโกง

ส่วนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น ตนเองได้รับรู้ความต้องการที่แท้จริงของประชาชน โดยมีทีมงานพร้อมและกล้าตัดสินใจไม่ห่วงจะเกิดผลกระทบ เพราะไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ในระยะเร่งด่วนจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ต้องหาทางให้ประชาชนมีรายได้จากราคาสินค้าเกษตรที่มีเสถียรภาพ ส่วนระยะยาวต้องแก้ไขปัญหาเรื่องการศึกษา

ขณะที่การเจาะฐานเสียงภาคอีสานนั้น ที่ผ่านมาได้คลุกคลีชาวอีสานนานหลายปี ทำให้เห็นว่าชาวอีสานต้องการให้ออกนโยบายที่จับต้องได้ เช่น การแก้ปัญหาเรื่องหนี้สิน และเรื่องน้ำ

โครงการรถไฟฟ้านั้นต้องกระจายไปยังภูมิภาค และเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น ส่วนโครงการอีอีซีต้องพิจารณาว่าคนไทยได้ประโยชน์จริงหรือไม่ ต้องดูแลให้ครบทุกมิติ

สำหรับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้นเป็นหลักการที่ดี หากไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศก็ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน ส่วนรัฐธรรมนูญนั้น หากมีประเด็นใดที่เป็นอุปสรรค หรือมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนก็ต้องแก้ไข นโยบายที่ตนเองใช้หาเสียงนั้นจะทำให้ประชาชนอยู่ดีมีกินเป็นนโยบายที่สัมผัสได้

  • "อลงกรณ์" ต้านนายกฯ คนนอก เน้นเศรษฐกิจสีขาว ป้องกันการผูกขาด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครเบอร์สาม กล่าวว่า จุดยืนทางการเมืองต้องชัดเจนทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง ถ้าชนะเป็นอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลเองแน่นอน แต่ถ้าเป็นอันดับ 2 จะให้พรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลไปก่อน แต่ถ้าตั้งไม่ได้เราจะเป็นคนจัดตั้ง และยืนยันไม่เอานายกฯ คนนอกเพราะจะเป็นชนวนวิกฤติของชาติ โดยพร้อมทำหน้าที่ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะหัวใจสำคัญคือประโยชน์ของประเทศและประชาชน ปัญหาของประเทศทุกวันนี้เกิดจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ รวยกระจุกจนกระจาย มีปัญหาเชิงโครงสร้าง ถ้าเป็นรัฐบาลจะออกกฎหมายมาบังคับใช้เพื่อป้องกันการผูกขาด เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ทั่วประเทศ การลงทุนไม่กระจุกตัว วางระบบเศรษฐกิจสีขาว เสรีเป็นธรรม และเสมอภาค

ส่วนการเจาะฐานเสียงในพื้นที่ภาคอีสานนั้น นายอลงกรณ์ ระบุว่า ผู้นำพรรคต้องเป็นคนที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร หัวหน้าพรรคต้องเป็นตัวแทนของคนทั่วประเทศ และมีแผนงานแก้ปัญหาในพื้นที่ภาคอีสานอย่างแท้จริง ส่วนตัวมั่นใจจะได้ ส.ส.อีสานอย่างน้อย 20 ที่นั่ง จาก 126 ที่นั่ง

การแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้นต้องสร้างโมเดลเศรษฐกิจใหม่ 6 ด้าน สร้างความเข้มแข็งรากหญ้าแทนพึ่งพาการส่งออก การให้เอกชนมีเสรีและเป็นธรรม การกระจายการลงทุนไปในภูมิภาค ส่วนการแก้ปัญหาทุจริตนั้น การเมืองสีขาวจะเป็นทางออก หากเป็นรัฐบาลจะไม่ยอมให้มีรัฐมนตรีทุจริต หากเป็นรัฐมนตรีที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาลจะยุบสภา

โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะทำเส้นเดียวที่จะเชื่อมโยงจีน ส่วนโครงข่ายรถไฟในประเทศขอยึดนโยบายสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย คือสี่รางทางคู่ ส่วนโครงการอีอีซีเห็นว่าไม่ได้ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ เพราะเป็นการดึงการลงทุนจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ซึ่งต้องพึ่งพาเงินทุนและเทคโนโลยีจากต่างประเทศทั้งสิ้น

ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้นตนเองมีส่วนร่วมจัดทำในฐานะรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) หากไม่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าจะทำให้การพัฒนาประเทศเกิดความอ่อนแอ และหากจำเป็นก็ต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ส่วนรัฐธรรมนูญนั้น หากมีจุดใดที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตยและการจำกัดเสรีภาพของประชาชนก็ต้องแก้ไข

หากตนเองเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ประชาชนจะได้พรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน มีความเท่าเทียมเสมอภาค การแก้ปัญหาทุจริต และการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ

ถึงแม้วิสัยทัศน์ของผู้สมัครทั้งสามคนจะมีความแตกต่างกัน แต่สิ่งที่ทำให้สมาชิกพรรคสบายใจ คือ ผู้สมัครทุกคนรับปากที่จะอยู่ช่วยงานพรรคต่อไปหากไม่ชนะการหยั่งเสียงครั้งนี้ ไม่ย้ายหนีไปอยู่พรรคอื่น เพราะการแข่งขันครั้งนี้ต้องเหลือผู้ชนะเพียงคนเดียว ขณะที่ประชาชนทั่วประเทศน่าจะได้ข้อมูลจากว่าที่หัวหน้าพรรค ปชป.คนใหม่ ไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในวันที่ 24 ก.พ.62 ไม่มากก็น้อย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ