รายงานข่าว แจ้งว่า การประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2561 ของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) วันนี้ มีมติเลือก ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนรองหัวหน้าพรรค 4 คน ประกอบด้วย นายฤภพ ชินวัตร, น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร, นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธ์สกุล และ นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์
ส่วนเลขาธิการพรรค ได้แก่ นายมิตติ ติยะไพรัช รองเลขาธิการพรรค 3 คน ประกอบด้วย นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์, นายต้น ณ ระนอง และ นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา
นอกจากนี้ นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ เป็นโฆษกพรรค, นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิก, น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิก, นายรุ่งเรือง พิทยศิริ กรรมการบริหาร และ นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหาร โดยจะมีการนำเสนอรายชื่อดังกล่าวให้ที่ประชุมใหญ่รับรองอีกครั้งในวันที่ 19 พ.ย.
สำหรับบรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีอดีต ส.ส.เพื่อไทย ได้แก่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล, พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์, ฟลุ๊ค เดอะสตาร์ มาร่วมประชุมด้วย ส่วน "มดดำ" นายคชาภา ตันเจริญ ลูกชายนายสุชาติ ตันเจริญ เดินทางมาให้กำลังใจเท่านั้น
ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ทษช.เป็นพรรคการเมืองที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันคือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อผลักดันการพัฒนาประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น เนื่องจากช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา คนที่มีอายุเกิน 60 ปีจะไม่ยอมรับความคิดของคนรุ่นใหม่ พวกเราที่มีอุดมการณ์เดียวกันจึงตัดสินใจมารวมตัวกัน
"เราจะไม่ยอมให้พี่น้องตกยุค ไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราจะเดินไปพร้อมๆ กัน เดินจับมือกันไป เมื่อโลกก้าวไกล ไทยต้องก้าวทัน ตามสโลแกนของพรรค"ร.ท.ปรีชาพล กล่าว
ร.ท.ปรีชาพล กล่าวอีกว่า ตนเองผมอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน 11 ปี ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สมาชิกพรรคให้โอกาส และพร้อมทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี โดย ทษช.พร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมืองที่สนับสนุนระบบประชาธิปไตย โดย ทษช.จะชูนโยบายการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนาประเทศให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน
"ผมพร้อม ไม่งั้นคงไม่เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค และพร้อมพูดคุยกับทุกฝ่ายที่สนับสนุนประชาธิปไตย" ร.ท.ปรีชาพล กล่าว
พร้อมทั้งจะจะสานต่อนโยบายของรัฐบาลเดิมที่ประสบความสำเร็จ เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่จะต่อยอดให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยนำปัญญาประดิษฐ์เข้าใช้ในการตรวจวิเคราะห์โรค
ส่วนกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่า ทษช.เป็นพรรคการเมืองสำรองของพรรคเพื่อไทย (พท.) และเกี่ยวพันกับคนในตระกูลชินวัตรนั้น ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และมีอุดมการณ์ของตัวเอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะรัฐธรรมนูญเปิดช่องทางให้เกิดพรรคเล็กพรรคน้อย แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่ตัดสินใจออกจาก พท.มาตั้งพรรคใหม่ เพราะไม่ได้มีความขัดแย้ง เพียงแต่เห็นว่านโยบายของ ทษช.จะช่วยเติมเต็ม
"การเมืองคงไม่ใช่เรื่องที่จะฮั้วกันได้ เพราะพรรคจะส่งผู้สมัครให้ได้มากที่สุดเท่าที่มีบุคลากร ถ้าจะไปทับซ้อนกันคงเลี่ยงไม่ได้ แต่คนที่จะตัดสินคือประชาชนที่ไปลงคะแนนเลือกตั้ง" ร.ท.ปรีชาพล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งคงเป็นเรื่องการตัดสินใจส่วนตัว แต่ยังมีเวลาถึงวันที่ 26 พ.ย.61
ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล กล่าวว่า พรรคจะส่งผู้สมัครลงพื้นที่ที่คาดว่าจะมีโอกาสชนะการเลือกตั้งราว 100 เขตขึ้นไป โดยนโยบายที่จะใช้หาเสียงคือการนำเสนอเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนแปลงประเทศให้ก้าวหน้า การแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำและล้นตลาด ด้วยการส่งเสริมการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งพรรคจะอาศัยความสัมพันธ์กับต่างประเทศที่มีอยู่ขยายตลาดรองรับสินค้าที่ผลิตได้