นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการเตรียมนัดหารือระหว่างรัฐบาลกับพรรคการเมือง เพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาเลือกวันที่จะนัดหารือ คาดว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนธ.ค. เพราะในเดือนพ.ย.นายกรัฐมนตรีมีภารกิจเต็มหมดแล้ว โดยการกำหนดวันนัดหารือไม่จำเป็นต้องเกี่ยวโยงว่าการแบ่งเขตการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องแล้วเสร็จก่อน หรือพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ต้องมีผลบังคับใช้
"ไม่มีความจำเป็นว่าจะต้องก่อนหรือหลังวันใดวันหนึ่ง มันไม่เกี่ยว เพราะผมได้บอกแล้วว่า สมมติว่าเราปลดล็อกวันนี้พรุ่งนี้ คุณก็ยังติดอีกล็อกหนึ่งคือล็อกในพระราชบัญญัติที่บอกว่าการหาเสียงทำได้เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว ถ้าปล่อยให้หาเสียงได้ตั้งแต่ตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้ ที่ผมเคยบอกว่าค่าใช้จ่ายบาทแรก คิดตั้งแต่พระราชกฤษฎีกาออก ดังนั้นถ้าปล่อยให้หาเสียงกันก่อน มันก็เป็นช่องว่างแต่ละคนใช้ค่าใช้จ่ายไปมากมายลงไป 20-30 ล้านบาทตอนนี้แล้วก็ไม่ต้องเอามาคิด เพราะไปคิดเอาวันที่มีพระราชกฤษฎีกา ตอนนั้นก็ไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว อะไรอย่างนี้ เขาไม่ต้องการให้หลีกเลี่ยงตรงนั้น เอาเป็นว่ายังติดอีกล็อก"นายวิษณุ กล่าว
ส่วนที่มีเสียงทักท้วงมาจากฝ่ายการเมืองเรื่องการขยายการแบ่งเขตการเลือกตั้งออกไป นายวิษณุ กล่าวว่าเรื่องนี้มีการร้องเรียนกันมามาก จึงให้เวลา กกต. ได้พิจารณา เพราะก่อนหน้านี้อาจพิจารณาด้วยความเร่งรีบ และหากก่อนหน้านี้ประกาศแบ่งเขตออกมา เชื่อว่าคงมีความไม่พอใจและฟ้องร้องกันแน่นอน
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าการที่ ครม.อนุมัติงบประมาณจำนวนมาก โดยมีรัฐมนตรีที่เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นการสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะการพิจารณางบประมาณ เป็นการเสนอเรื่องของกระทรวงการคลัง และไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้แก่ใครหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง
ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถออกมาตรการใดเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการเงินได้ ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง โดยสามารถดำเนินโครงการต่างๆได้ตามปกติ เพราะรัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ และมีอำนาจเต็มตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้