(เพิ่มเติม) ส.องค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ล่ารายชื่อประชาชนถอดถอน 5 ป.ป.ช.ปมนาฬิกาหรู

ข่าวการเมือง Friday December 28, 2018 15:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมกันลงชื่อ 2 หมื่นรายชื่อเพื่อถอดถอนและดำเนินการเอาผิด 5 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเสนอประธานรัฐสภา และเสนอประธานศาลฎีกาเพื่อตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระที่มีความเป็นกลางทางการเมืองและซื่อสัตย์สุจริต เพื่อไต่สวนหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ศาลฎีกาวินิจฉัยหรือให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อ 5 ป.ป.ช. ดังกล่าวต่อไป

สืบเนื่องจากตามที่สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมว่าจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีไม่แสดงนาฬิกาหรูและแหวนประดับมีค่าที่สวมใส่ในโอกาสต่างๆ ที่ปรากฏเป็นภาพข่าวตามสื่อมวลชนนั้น และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมาแล้วมีมติ 5 ต่อ 3 เห็นว่าพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ แต่กลับไม่ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ตามที่กรรมการเสียงข้างน้อยเสนอ เพียงแต่ให้แจ้งข้อมูลนาฬิกาจำนวน 22 เรือน ต่อกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปนั้น

การใช้อำนาจของ 5 ป.ป.ช.ดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 234(1) คือ "ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง" ซึ่งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยมิอาจปล่อยเว้นกรณีเช่นนี้ไปได้ และเชื่อว่าคนไทยทั้ง 66 ล้านคนก็คงยอมรับมิได้จากผลของการใช้อำนาจดังกล่าวของ 5 ป.ป.ช.

ด้านนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบทุจริตในอนาคต เพราะการดำเนินการที่ผ่านมาของ ป.ป.ช.ไม่ใช่การแสวงหาข้อเท็จจริง แต่เป็นการแสวงหาคำแก้ตัวให้ พล.อ.ประวิตร ซึ่ง ป.ป.ช.น่าจะดำเนินการเพื่อส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้ชี้ขาด

นายชาญชัย กล่าวว่า การซื้อนาฬิกาเหล่านี้ต้องมีหลักฐานจากบริษัท และอยู่ในประเทศที่สามารถขอหลักฐานได้ แต่ ป.ป.ช.อ้างว่าขอหลักฐานไม่ได้ เป็นการโกหกประชาชน กรรมจะตกอยู่กับการตรวจสอบทุจริตในอนาคต เพราะเรื่องนี้จะเป็นบรรทัดฐาน

นายชาญชัย กล่าวว่า การดำเนินการในเรื่องนี้ของ ป.ป.ช.ขัดต่อกฎหมายหลายมาตรา เช่น ยอมคืนให้เมื่อถูกจับได้ ซึ่งถือว่าความผิดสำเร็จไปแล้ว และตนเองไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประวิตร เป็นทหารได้อย่างไรในยุคปฏิรูป สมควรที่จะลาออกไปตั้งแต่เมื่อ 8 เดือนที่แล้ว เพราะแทนที่จะเข้ามาแก้ปัญหากลับกลายเป็นตัวถ่วงการพัฒนา

"พล.อ.ประยุทธ์ จะแก้ไขปัญหาทุจริตได้อย่างไร...มันหนักหนาสาหัสพอสมควร" นายชาญชัย กล่าว

นายชาญชัย กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นชนวนปัญหาจริยธรรมและการตรวจสอบทุจริต โดยตนเองได้ส่งข้อมูลให้องค์กรภาคประชาชนดำเนินการ โดยสามารถเข้าชื่อ 2 หมื่นรายยื่นให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถอดถอน ป.ป.ช.ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ