ป.ป.ช.ตรวจสอบ"โฆสิต"ช่วยเหลือ PDI แต่ไม่รับพิจารณา"สนธิ"จดทะเบียนซ้อน

ข่าวการเมือง Wednesday January 16, 2008 17:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติแต่งตั้งนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนเรื่องกล่าวหา นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม กรณีให้ความช่วยเหลือ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี(PDI) ให้ได้รับการผ่อนผันจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในการใช้พื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เพื่อทำเหมืองแร่สังกะสีท้องที่ อ.แม่สอด จ.ตาก
"ที่ประชุมจึงมีมติรับพิจารณา และให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป โดยมอบหมายให้นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการ" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
เนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า คำกล่าวหาของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 จึงมีมติรับพิจารณา
นายเรืองไกร ระบุว่า นายโฆสิตปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในฐานะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม มีหน้าที่กำกับ ควบคุม ดูแล หรือตรวจสอบหน่วยงานของรัฐที่อยู่ในความรับผิดชอบ รวมทั้งในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติโดยตำแหน่ง กระทำการช่วยเหลือ PDI ให้ได้รับการผ่อนผันจาก ครม.ในการใช้พื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เพื่อทำเหมืองแร่สังกะสี ท้องที่ อแม่สอด จ.ตาก และต่ออายุประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่สังกะสีต่อไปได้ โดยนายโฆสิตเคยเป็นกรรมการของ PDI
ส่วนกรณีที่กลุ่มพิราบขาว 2006 กล่าวหา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี จดทะเบียนสมรสซ้อนซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติไม่รับพิจารณา เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำความผิดอาญาในฐานะส่วนตัว มิใช่เรื่องกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่กฎหมายอื่น
"คำกล่าวหาดังกล่าวไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ของมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะมีอำนาจดำเนินการต่อไปได้"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ