นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า พรรคอยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้สมัครในพื้นที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงปลายเดือน ม.ค.หรือต้นเดือน ก.พ.62
สำหรับกลุ่มคนอยากเลือกเลือกตั้งออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการเลื่อนเลือกตั้ง ถือเป็นในสังคมประชาธิปไตย โดยเฉพาะยิ่งช่วงเข้าสู่วาระใกล้เลือกตั้งที่ประชาชนรอมานาน ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องยอมรับว่าการแสดงออกทางการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา ถือว่ากลุ่มคนอยากเลือกตั้งมีเจตนาดี และไม่คิดว่าจะนำสู่เงื่อนไขความรุนแรงหรือเกิดปั่นป่วนในสังคมแต่อย่างใด
ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ทษช.กล่าวภายหลังลงพื้นที่พบปะประชาชนย่านตลาดคลองเตย พร้อมกับแกนนำฯ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย ว่า พ่อค้าแม่ค้าในตลาดคลองเตยได้สะท้อนปัญหาเศรษฐกิจในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาว่าการค้าขายอยู่ในระดับทรงตัวแค่พออยู่ได้ จากปกติที่จะมีความคึกคักมาก เนื่องจากมีประชาชนจากหลายพื้นที่เดินทางมาจับจ่ายใช้สอย แต่หลังปีใหม่มานี้การค้าขายยิ่งทรุดหนัก และประชาชนรอคอยการเลือกตั้งเพื่อให้ได้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาปากท้อง ซึ่งตนเองเชื่อว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดรับการค้าการลงทุนจากต่างประเทศและฟื้นคืนเศรษฐกิจโดยรวมให้ดีขึ้นเหมือนช่วงก่อนปี 57
ส่วนปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น ขอฝากให้ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการและวางแผนเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยได้แนะนำให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดผ่าน Application ตรวจสอบดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index) เพื่อจะได้ป้องกันตัวได้ทันท่วงที
ขณะที่นายประภัส จงสงวน กรรมการยุทธศาสตร์ฯ กล่าวว่า การแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานของผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องไม่ทันท่วงที การให้ข้อมูลไม่ครอบคลุม ซึ่งเกิดจากภาวะที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และทำให้มาตรการดูแลการก่อสร้างหรือควบคุม ต้นเหตุของปัญหาไม่เข้มงวด สังเกตจากการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ไม่มีการคลุมตาข่าย หรือแม้แต่การควบคุมการจราจรก็ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งคงจะถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงแล้ว
นายประภัส กล่าวอีกว่า อาจถึงเวลาที่สังคมไทยต้องทบทวนว่าโครงการขนาดใหญ่จะต้องกระจายออกไปชานเมือง ไม่ให้กระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาความแออัดและภาวะมลพิษ นอกเหนือจากกระจายการพัฒนาสู่ชานเมืองอีกด้วย