เลขาธิการพรรคพลังประชาชน(พปช.) เผยได้เชิญบุคลากรระดับมืออาชีพเข้ามาร่วมทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลชุดใหม่หลายคน โดยผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีใน 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเป็นผู้ที่ยังไม่เคยมีชื่อปรากฎเป็นข่าวเลย ซึ่งเคยเข้ามาร่วมทำงานตั้งแต่ในช่วงเริ่มร่างนโยบาย และจะได้ข้อสรุปเรื่องตัวบุคคลไม่เกินกลางสัปดาห์หน้า "เราเชื่อว่าเป็นทีม(เศรษฐกิจ)ที่ดีที่สุดทีมหนึ่ง หลายคนอาจไม่ปรากฎชื่อในสื่อเลยในช่วงที่ผ่านมา เราเองรู้กันวงในกลุ่มผู้ที่รับผิดชอบจริงๆ ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงการให้ความเห็น" น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน(พปช.) กล่าวทางรายการวิทยุเช้านี้ เลขาธิการพรรค พปช.กล่าวว่า แนวทางการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจเร่งด่วน คือ เร่งรัดการเบิกจ่ายภาครัฐ, เร่งรัดโครงการเมกะโปรเจ็คส์ให้เป็นรูปธรรมเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นการลงทุน, การกระตุ้นการท่องเที่ยว, การส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้อย่างเร่งด่วน เป็นต้น โดย พปช.จะขอรับผิดชอบดูแลกระทรวงเศรษฐกิจหลักเพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ทั้งนี้คาดว่า ภายในวันที่ 31 ม.ค.51 จะได้เห็นหน้าตาของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้ไม่เกินวันที่ 15 ก.พ.51 "คิดว่าได้เห็นครับ...หลังจากทูลเกล้าฯ(รายชื่อคณะรัฐมนตรี) แล้วก็จะเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ หลังจากนั้นคณะรัฐมนตรีใหม่ต้องเตรียมนโยบายเพื่อแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์" น.พ.สุรพงษ์ กล่าว เลขาธิการพรรค พปช.ยังตั้งข้อสังเกตุว่ามีความพยายามที่จะปล่อยข่าวเรื่องนายกรัฐมนตรีสำรอง ทั้งๆ ที่ในพรรคเองไม่เคยมีการพูดคุยเรื่องนี้เลย และเชื่อว่าวันนี้คงจะมีความชัดเจนและมั่นใจมากขึ้น พร้อมระบุว่า การให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่สนับสนุนให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีผลต่อการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง "จริงๆ ข่าวจากเมืองนอกคงไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลที่จะให้การสนับสนุน" น.พ.สุรพงษ์ กล่าว เลขาธิการพรรค พปช.ยังชี้แจงว่า การเลื่อนกำหนดแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลของ 6 พรรคการเมืองไปเป็นช่วงบ่ายวันที่ 19 ม.ค.นั้นไม่ได้มีนัยใดๆ ทางการเมืองตามที่มีข่าว เพราะนายสมัครและแกนนำพรรคต่างๆ ต้องเดินสายลงพื้นที่ไปช่วยลูกพรรคหาเสียงในต่างจังหวัด "เราเองไม่ได้รอคำตอบใดๆ ในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีการประสานพูดคุยกับฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ การที่จะสรุปว่ารัฐมนตรีจะเป็นใครอยู่กระทรวงไหนยังไม่ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ กระบวนการยังใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์" น.พ.สุรพงษ์ กล่าว สำหรับกระแสข่าวที่ออกมาจะเป็นไปในแต่ละช่วงจังหวะเวลา เริ่มตั้งแต่การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 22 ม.ค.หากมีพระบรมราชโองการเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 21 ม.ค.51 และเลือกนายกรัฐมนตรีราววันที่ 24-25 ม.ค.51 ส่วนการพิพากษาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีการเมืองในช่วงบ่ายวันนี้ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้คาดการณ์อะไร เพราะเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรม ทางพรรคจึงไม่ได้เตรียมการอะไรไว้รองรับ