พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดนโยบายพรรคชุดแรก ที่ให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้ 3 พันธกิจหลัก โดยเฉพาะสวัสดิการประชารัฐ ที่จะมีขยายผลเพิ่มเติมพร้อมเพิ่มสิทธิต่าง ๆ มากขึ้น ,พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี และเศรษฐกิจประชารัฐ ที่จะดูแลเรื่องการเกษตรกับนโยบาย "เกษตรประชารัฐ 3 เพิ่ม 3 ลด" คือ เพิ่มรายได้ เพิ่มทางเลือก และเพิ่มนวัตกรรม ลดหนี้ ลดต้นทุน และลดความเสี่ยง มุ่งเน้นยกระดับภาคการเกษตร พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรค 350 เขต
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค พร้อมทั้งแกนนำคนสำคัญของพรรค ได้ใช้พื้นที่สนามฟุตซอลบางกอกอารีน่าหนองจอก เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส. พร้อมทั้งประกาศนโยบายพรรคชุดแรก ภายใต้สโลแกน "รวมพลังสร้างชาติให้ยั่งยืน" โดยมีสมาชิกพรรคและประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 5,000 คน
นายอุตตม กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้ 3 พันธกิจหลัก โดยเฉพาะสวัสดิการประชารัฐ ที่มุ่งเน้นขจัดความเหลื่อมล้ำ โดยการสานต่อนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องบัตรประชารัฐ ที่จะขยายเพิ่มเติมให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติ แต่ตกหล่นให้ได้รับสิทธิครบถ้วน รวมไปถึงการเพิ่มสิทธิต่าง ๆ ในบัตรประชารัฐตามคอนเซ็ปท์ "เพิ่มคน เพิ่มสิทธิ" นอกจากนี้ยังเดินหน้าแก้ปัญหาปากท้อง หนี้สินประชาชน ด้วยนโยบายการพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี เพราะกองทุนหมู่บ้านดำเนินการมายาวนาน แต่ยังไม่มีการแก้ปัญหาเรื่องหนี้ของสมาชิกผู้กู้ยืมที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทำให้ต้องไปกู้หนี้นอกระบบมาชดใช้ ดังนั้น พรรคจึงต้องการแก้ปัญหาให้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยแนวทางที่เรียกว่า "พักหนี้ ฟื้นฟู เติมทุน ให้โอกาส"
อีกหนึ่งพันธกิจสำคัญ คือ เศรษฐกิจประชารัฐ เพื่อปากท้องและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน ที่ดูแลเรื่องการเกษตรกับนโยบาย "เกษตรประชารัฐ 3 เพิ่ม 3 ลด" คือ เพิ่มรายได้ เพิ่มทางเลือก และเพิ่มนวัตกรรม ลดหนี้ ลดต้นทุน และลดความเสี่ยง มุ่งเน้นยกระดับภาคการเกษตร พัฒนาศักยภาพ ให้มีรายได้ เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเข้าไปดูแลเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ เช่น ราคาข้าว ด้วยการเพิ่มค่าชดเชยค่าเกี่ยวข้าว จากเดิมที่ค่าชะลอการขายข้าวหรือค่าเก็บและค่าเกี่ยว อยู่ที่ไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกิน 12 ไร่ เพิ่มเป็นค่าเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท และเพิ่มจำนวนไร่เป็นไม่เกิน 20 ไร่ เพราะจากการลงพื้นที่รับฟังเสียงสะท้อนจากชาวนา ทราบมาว่าส่วนใหญ่ไม่มีที่เก็บ เมื่อเกี่ยวข้าวแล้วจึงต้องขายในทันที ดังนั้น การเพิ่มค่าเกี่ยวจึงช่วยเหลือได้ตรงจุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เพียงพอต่อต้นทุนและมีเงินใช้จ่าย ตรงกับสโลแกนที่ว่า "ข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม"
นายอุตตม กล่าวว่า อีกหนึ่งประเด็นที่พรรคให้ความสำคัญคือ ปัญหาที่ดินทำกิน ไม่ว่าจะเป็นการเร่งออกสารสิทธิในที่ดินซึ่งประชาชนมีกรรมสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย การเดินหน้าพิสูจน์สิทธิในที่ดินซึ่งเป็นกรณีโต้แย้งระหว่างรัฐกับราษฎร และปัญหาสำคัญเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.โดยเสนอนโยบายปรับเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็น ส.ป.ก.4.0 คือให้ผู้ที่ได้รับสิทธิทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. สามารถโอนสิทธิให้บุคคลอื่น ที่มีคุณสมบัติตามที่ ส.ป.ก.กำหนดได้เข้าทำประโยชน์แทนได้ โดยได้รับค่าสิทธิเดิมจากการโอนสิทธิในที่ดินนั้น ขณะที่ส.ป.ก.ก็จะได้ค่าธรรมเนียมจากการโอนสิทธิดังกล่าว
อย่างไรก็ตามนโยบายนี้ยังคงวัตถุประสงค์กรรมสิทธิในที่ดินเป็นของ ส.ป.ก.เช่นเดิมและใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรเป็นหลัก แต่หากพื้นที่ซึ่งไม่เหมาะสมกับการเกษตรสามารถเปลี่ยนการใช้ที่ดินได้ตามความเหมาะสมและสภาพพื้นที่จริง โดยยืนยันว่าทุกนโยบายของพรรคที่นำเสนอไม่ใช่การขายฝัน แต่ทำให้เกิดขึ้นได้จริงทุกเรื่องหากพรรคได้เป็นรัฐบาล
สำหรับบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขต ของพรรคพลังประชารัฐ ที่โดดเด่น ประกอบด้วย พื้นที่กรุงเทพมหานคร นายธันวา ไกรฤกษ์ , ดร.ไกรเสริม โตทับเที่ยง ,พื้นที่ภาคกลาง นายสุชาติ ตันเจริญ พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ลงสมัครจ.ฉะเชิงเทรา นายอิทธิพล คุณปลื้ม จ.ชลบุรี นายอนุชา นาคาศัย จ.ชัยนาท นางเจริญ เรี่ยวแรง นายฉลอง เรี่ยวแรง จ.นนทบุรี นางปารีณา ไกรคุปต์ จ.ราชบุรี นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือกจ.สมุทรปราการ นายอำนวย คลังผา จ.ลพบุรี นายฐานิสร์ เทียนทอง นางสาวตรีนุช เทียนทอง จ.สระแก้ว นายพงศ์พิชาญ ดามาพงศ์ จ.สุพรรณบุรี
พื้นที่ภาคใต้ นายสมัชชา เอ่งฉ้วน จ.กระบี่ ดร.พงศ์พันธุ์ เอ่งฉ้วน จ.สุราษฎร์ธานี นางตัสนีม เจ๊ะตู จ.นราธิวาส นายมูฮำมัดปาเรซ โลหะสัณห์ จ.ปัตตานี ,พื้นที่ภาคอีสาน นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ จ.นครพนม นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายจำลอง ครุฑขุนทด จ.นครราชสีมา นายรณฤทธิชัย คานเขต จ.ยโสธร นางรัชนี พลซื่อ นายเอกภาพ พลซื่อ จ.ร้อยเอ็ด นายปิยะณัฐ วัชราภรณ์ จ.ศรีสะเกษ นายสุทธิชัย จรูญเนตร นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ จ.อุบลราชธานี
พื้นที่ภาคเหนือ นายวิตติ แสงสุพรรณ จ.แพร่ นายธรรมนัส พรหมเผ่า จ.พะเยา นางรัตนา จงสุทธานามณี นายศักดิ์ชัย จงสุทธนามณี จ.เชียงราย นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ดร.เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายวีระกร คำประกอบ จ.นครสวรรค์ ดร.พรรณศิริ กุลนาจศิริ จ.สุโขทัย เป็นต้น
อย่างไรก็ตามในส่วนบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจำนวน 150 คนนั้น ทางพรรคยังไม่ได้เปิดรายชื่อผู้สมัครในวันนี้