เลือกตั้ง'62: อนาคตใหม่แถลงยืนยันเสนอชื่อ"ธนาธร"ชิงเก้าอี้นายกฯ หยุดคสช.สืบทอดอำนาจ-แก้รธน.-ล้างผลพวงรัฐประหาร

ข่าวการเมือง Friday February 8, 2019 18:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงการณ์ในนามของพรรค เรื่อง การเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐและพรรคไทยรักษาชาติ โดยระบุว่า จากกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ มีมติเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคไทยรักษาชาติ มีมติเสนอทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ มีความเห็นต่อกรณีดังกล่าว ดังนี้

1. พรรคอนาคตใหม่ ขอเรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ ลาออกจากทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วยเหตุผล 2 ประการ

ประการแรก การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะจัดการเลือกตั้งทั่วไปนั้น ไม่สามารถเทียบได้กับบรรทัดฐานสากล เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ยังคงอนุญาตให้รัฐบาลมีอำนาจเต็ม ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการที่มีอำนาจจำกัด และหัวหน้า คสช. ยังมีอำนาจเผด็จการตามมาตรา 44 ด้วย

ประการที่สอง หัวหน้า คสช. มีอำนาจแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการลงคะแนนให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาหลังการเลือกตั้ง

"ดังนั้น การดำรงตำแหน่งนายกฯ และหัวหน้า คสช.ของ พล.อ. ประยุทธ์ พร้อมกับเป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี จึงเป็นกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน และส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สามารถดำเนินไปได้โดยเสรีและเป็นธรรม" แถลงการณ์ระบุ

2. ในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 24 มีนาคม 2562 พรรคอนาคตใหม่ยืนยันเสนอชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรคอนาคตใหม่ เป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคอนาคตใหม่ยังยืนยันในข้อเสนอทางการเมือง 3 ข้อ ได้แก่ (1) หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. (2) แก้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ทั้งฉบับ และ (3) ลบล้างผลพวงรัฐประหาร

พรรคอนาคตใหม่ เชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และการบรรลุข้อเสนอทั้ง 3 ข้อนั้น จะเป็นไปได้ก็ด้วยแนวทางที่มั่นคงในหลักการประชาธิปไตย ที่ประชาชนต้องถูกรวมเข้าไปในกระบวนการตัดสินใจทางการเมือง ผลประโยชน์ของประชาชนจะต้องไม่ถูกลืม และสิทธิเสรีภาพของประชาชนต้องได้รับการค้ำประกัน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า การตกลงรอมชอมกันเองระหว่างชนชั้นนำไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเมืองได้เลย

3. ผลพวงของการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ประการหนึ่ง คือ การปูทางไปสู่การสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารผ่านรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ที่เปิดช่องทางให้พรรคการเมือง สามารถเสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น พรรคอนาคตใหม่เห็นว่า พรรคการเมืองที่ยืนหยัดกับหลักการประชาธิปไตยจะต้องยึดถือหลักการ "นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส."

"หลักการ นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส." คือ มรดกของเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เป็นผลพวงจากการต่อสู้ของประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยต่อระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบ ตามรัฐธรรมนูญ 2521 และ 2534 ที่ต้องการให้การเลือกตั้งเป็นเพียงเครื่องประดับ และหลังเลือกตั้งกลับเชิญคนนอกเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับมีวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง ประกอบไปด้วยนายทหารและข้าราชการประจำ เราต้องแลกเลือดเนื้อชีวิตของประชาชนไปจำนวนมาก กว่าประเทศไทยจะสถาปนาหลักการ "นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส." ลงไปในรัฐธรรมนูญ 2540 ก่อนจะถูกฉีกโดยการรัฐประหาร 2549

4. พรรคอนาคตใหม่ เรียกร้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องดำเนินไปอย่างเสรี เป็นธรรม และแข่งขันกันอย่างเสมอภาคเท่าเทียม บุคคล สื่อมวลชน ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมืองทุกพรรคต้องมีเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเผชิญกับอุปสรรคขัดขวางในทางกฎหมายและในทางประเพณีค่านิยม เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นกระบวนการสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย

5. พรรคอนาคตใหม่ มีความพร้อมกับการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ทั้งในด้านบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี บุคคลที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี ผู้สมัคร ส.ส. ตลอดจนนโยบายของพรรคที่มุ่งแก้ไขปัญหาโครงสร้างทั้งระบบ เรายืนยันว่า หากพรรคอนาคตใหม่ได้เสียงข้างมากเพียงพอ พรรคอนาคตใหม่พร้อมเป็นรัฐบาล และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี

แต่หากเกิดกรณีจัดตั้ง "รัฐบาลแห่งชาติ" ที่รวบรวมทุกพรรคการเมืองเข้าด้วยกัน พรรคอนาคตใหม่ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ไม่ใช่เพียงเพราะว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 106 บังคับให้ต้องมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาจำเป็นต้องมีฝ่ายค้านที่คอยตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลด้วย

"สุดท้าย พรรคอนาคตใหม่เชื่อในการเปลี่ยนแปลง และความเป็นไปได้ เราเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องเลือกอยู่ระหว่างการเมืองแบบเผด็จการทหารกับการเมืองแบบเก่า แต่การเมืองแบบใหม่เป็นไปได้ การเมืองที่เป็นของคนทุกคน ไม่ใช่การตกลงเจรจาโดยผู้มีอำนาจไม่กี่คน เป็นไปได้ การเมืองที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เป็นไปได้" แถลงการณ์ระบุ

ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ เป็นการ Set Zero ... สีเสื้อทางการเมืองในอดีต ไม่สามารถใช้อธิบายความขัดแย้งในสังคมไทยได้อีกต่อไป และได้เปลี่ยนสมการทางการเมือง ซึ่งพรรคอนาคตใหม่เชื่อว่ายังมีโอกาสในการเป็นแกนนำรัฐบาล

พร้อมยืนยันว่า ตลอดเวลาที่ตั้งพรรคมา ไม่ได้มีการเจรจากับใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณ ชินวัตร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ รวมถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์

"ไม่เคยพูดคุยกับใคร หรือเจรจาต่อรองทางการเมือง ตั้งแต่ตั้งพรรคจนถึงวันนี้" นายธนาธร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ