น.ส.วิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า การเลือกตั้งในปีนี้มีผู้สมัครฯ ทั้งสิ้น 932 คน จาก 51 พรรคการเมือง มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวจากการเลือกตั้งในปี 54 ที่มีจำนวนผู้สมัครเพียง 311 คน เนื่องจากทุกคะแนนมีผลต่อการได้รับจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค โดยเขตเลือกตั้งที่ 17 หนองจอก มีผู้สมัครมากสุดถึง 36 คน
"พรุ่งนี้พร้อมที่จะประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัคร ซึ่งมีผู้สมัครบางรายที่มีปัญหาขาดคุณสมบัติ เนื่องจากเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ครบ 90 วัน" น.ส.วิชชุดา กล่าว
การเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.กทม.ตั้งเป้าให้มีประชาชนมาใช้สิทธิ์ 85% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายรวมที่ 80% และมีบัตรเสียไม่เกิน 2% โดยในวันนี้ ทางสำนักงาน กกต.ได้จัดกิจกรรมการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ให้แก่ผู้สมัครฯ ทั้ง 30 เขต ตามโครงการสร้างกลไกในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งการเลือกตั้ง
น.ส.วิชชุดา กล่าวว่า ขอให้ผู้สมัครฯ ทุกคนดูแลเรื่องการติดป้ายหาเสียงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ได้ประกาศไว้ โดยคำนึงถึงขนาด จำนวน และสถานที่ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งหากดำเนินการไม่ถูกต้องจะมีบทลงโทษทั้งจำคุกและปรับ เนื่องจากที่ผ่านมามีการร้องเรียนว่ามีเด็กนักเรียนเดินลงจากสะพานลอยแล้วชนป้ายได้รับบาดเจ็บ และมีผู้สมัครบางรายติดตั้งป้ายหาเสียงมากกว่าที่กฎหมายอนุญาต
"ขอให้ผู้สมัครทุกคนใส่ใจเรื่องการติดตั้งป้ายหาเสียงให้ถูกต้อง ผลเสียที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อผู้สมัครเอง เพราะประชาชนจะจดจำว่าเป็นป้ายหาเสียงของใคร" น.ส.วิชชุดา กล่าว
ผู้อำนวยการ กกต.ประจำ กทม.กล่าวว่า หากพบการติดแผ่นป้ายหาเสียงไม่ถูกต้องจะมีหนังสือเตือนให้ดำเนินการแก้ไขภายใน 5 วัน หากเลยกำหนดเวลา กกต.จะดำเนินการรื้อถอนโดยคิดค่าดำเนินการจากผู้สมัครที่เป็นเจ้าของป้าย และ กกต.จะดำเนินคดีซึ่งมีความผิดจำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ