น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้สมัครส.ส.กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคเพื่อไทย และอดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวในงานเสวนา "เปิดวิสัยทัศน์ "Digital Economy"ชูแนวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ว่า นโยบายดิจิทัลของพรรคคือใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาปากท้องของคน เอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น การแก้ปัญหาสินค้าขายได้น้อยด้วยการเอาเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงคนซื้อกับคนขาย ใช้เทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหา เช่น ปัญหาการจราจร พรรคมองว่าการบูรณาการฐานข้อมูลภาครัฐ การใช้เทคโนโลยียกระดับบริการภาครัฐ พรรคให้ความสำคัญที่จะให้คนใช้เทคโนโลยีมายกระดับคุณภาพชีวิต
นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตรมว.ไอซีที กล่าวว่า สิ่งที่พรรคจะทำในลำดับแรกคือใช้เทคโนโลยีพัฒนาคนเปิดหลักสูตรออนไลน์ จ้างงาน 10,000 ตำแหน่ง ในศูนย์ไอซีทีชุมชน และแก้กฎหมายที่เป็นข้อจำกัดมนการเอาเทคโนโลยีมาใช้ทำงาน ส่งเสริมให้เกิดเทคโนโลยี 5G โดยการจัดสรรคลื่นให้ความสำคัญกับบริการที่ประชาชนจะได้มากกว่าการประมูลคลื่นราคาแพง
นอกจากนี้เครือข่ายสารสนเทศที่มีอยู่ต้องควรใช้งานให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ พรรคมองว่าการพัฒนาไอทีจะทำได้ต้องปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรค พัฒนาศูนย์ไอซีทีชุมชน ส่งเสริมการพัฒนาทักษะและความรู้ทางด้านไอที สร้างเครือข่ายสื่อสารและคมนาคมให้เชื่อมโยงกันได้ โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จะต้องปรับปรุงการใช้งบประมาณให้เหมาะสม
นายไกลก้อง ไวทยากร นายทะเบียนสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า นโยบายของพรรคจะขยายเครือข่ายสายไฟเบอร์ เร่งการพัฒนา 5G ขยายฟรี Wifi ให้เอกชนมาให้บริการ เอาคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้งาน นำข้อมูลมาขยายมูลค่าทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการศึกษาทดแทนการขาดแคลนเทคโนโลยี การแก้ไขกฎหมายที่ริดลอนสิทธิส่วนบุคคล การแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ปฎิรูปองค์กรบังคับใช้กฎหมายเทคโนโลยีทั้งตำรวจไซเบอร์และองค์กรกำกับ เปิดข้อมูลที่มีความสำคัญและมีมูลค่าของภาครัฐให้ประชาชนและสตาร์ทอัพใช้พัฒนาและสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศน์ในการใช้ดาต้าเพื่อการพัฒนา
นอกจากนี้มีความจำเป็นต้องเตรียมตัวรับการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่จะมาแทนแรงงานมนุษย์
"ปัญหาของอุตสาหกรรมดิจิทัล ได้แก่ กฎหมายที่ทำให้คนยังไม่กล้าเข้ามาลงทุน สองปีที่ผ่านมามีการตื่นตัวในการส่งเสริมสตาร์ทอัพ แต่สตาร์ทอัพไทยยังขาดนักพัฒนาที่จะมาสนับสนุนทำให้บริษัทสตาร์ทอัพไทยไปไม่ถึงระดับโลก"
นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า ปัญหาของอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ได้แก่ ช่องว่างการเข้าถึงเทคโนโลยีที่คนรากหญ้ายังมีช่องว่างในการเข้าถึง กฎหมายหรือระเบียบทางด้านดิจิทัลไปมุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงมากกว่าการส่งเสริม คนไทยมีความสามารถแต่ขาดการส่งเสริม ถ้ามีทรัพยากรที่ทุกคนสามารถใช้งานร่วมกันได้น่าจะช่วยในการพัฒนาได้ดีขึ้น
สิ่งที่พรรคอยากทำถ้าเป็นรัฐบาลคือเอาเทคโนโลยีมาทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนทำให้มี Smart Citizen คนสามารถใช้แอพพลิเคชั่นช่วยให้คนรับบริการภาครัฐได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้น ส่งเสริมให้รักเรียนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและเรียนได้จากทุกที่ โดยเชิญครูที่มีความรู้ที่เกษียณอายุไปแล้วมาสอน ทำแอพพลิเคชันและบริการที่ยกระดับเมืองให้เป็นสมาร์ทซิตี้จริงๆ ถ้าทำให้คนเข้าถึงทรัพยากรที่มีอยู่ง่ายขึ้น
นายณัฐพงษ์ รอบคอบ ผู้สมัครส.ส.เขต 3 จ.สมุทรปราการ พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า ปัญหาของอุตสาหกรรมดิจิทัล ได้แก่ ปัญหาความไม่เข้าใจ ความไม่เป็นเอกภาพในการใช้งานเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ความไม่เข้าใจของผู้บริหารที่กำหนดนโยบายไอทีที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เช่น ความพยายามจัดเก็บรายได้จากการทำอีคอมเมิร์ซ อาจทำให้การทำธุรกิจไม่ราบรื่น
นโยบายไอทีของพรรคคือการปลดผู้บริหารสูงสุดทางด้านไอทีที่ไม่มีคุณภาพ บูรณาการระบบการทำธุรกรรมให้มีเอกภาพ ยุบแอพพลิเคชันที่ไม่จำเป็นให้เหลือแค่แอพพลิเคชันเดียว เป็นไทยแลนด์แอพพลิเคชัน ส่งเสริมสตาร์ทอัพให้ไปถึงระดับโลก ใช้งานศูนย์ไอซีทีชุมชนให้เป็นศูนย์โอทอปและฝึกอาชีพ และบูรณาการทางการค้า 24 ชั่วโมง