พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้ขอให้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะพูดคุยและเอานโยบายของแต่ละพรรคมาหารือกัน ซึ่งมองว่า การเป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วมหลายพรรคนั้น หากมองในแง่ดี คือการนำเอานโยบายต่างๆที่ได้หาเสียงไว้มาจัดทำเป็นนโยบายของรัฐบาลที่สามารถขับเคลื่อนประเทศด้านต่างๆได้จริง ส่วนการวางตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆนั้น ให้เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะจัดสรร ขออย่าเอาตัวเองไปเกี่ยวในตอนนี้ เพราะต้องให้นักการเมืองและพรรคการเมืองได้หารือและนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปได้พิจารณา พร้อมย้ำว่าทุกพรรคมีนโยบายที่ดีและขอให้เคารพการตัดสินใจของประชาชนที่ได้เลือกเข้ามา
นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ต้องดำเนินการไม่ล่าช้า เพราะหากล่าช้าจะกระทบเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลาที่ไทยจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ ท่ามกลางสงครามการค้าระดับโลก โดยยืนยันตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ใช่การเล่นขายของแต่อย่างใด
"การเมืองไม่ใช่มุ่งเอาชนะคะคานกัน และตำแหน่งเหล่านี้ไม่ใช่ตำแหน่งขายของ ทุกคนมองเหมือนเป็นขายของ พอพูดไปมากๆเข้า เขาจะเชื่อมั่นรัฐบาลเราหรือไม่ กลายเป็นต่อรองเยอะแยะไปหมด ผมว่าเขาคุยกันรู้เรื่อง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนเก้าอี้รัฐมนตรี 4 กระทรวงสำคัญควรจะอยู่กับพรรคการเมืองหลักที่จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกพรรคก็หวังอย่างนั้นแต่เป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ที่จะจัดสรรกัน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่สื่อฮ่องกง ระบุว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปว่า "เอาข่าวมาจากไหน เป็นไปอย่างไร ผมไม่รู้เหมือนกัน"
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่เป็นความจริง เป็นการพูดคุยถึงสถานการณ์ทางการเมืองเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความพอใจผลงาน คสช. ครบ 5 ปี ในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ว่า พอใจผลงาน คสช.ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพราะได้แก้ปัญหาหลายเรื่องให้ดีขึ้น ทั้งการดูแดความสงบเรียบร้อย แก้ปัญหาจำนำข้าว การทุจริตคอร์รัปชั่น ปรับปรุงแก้ไขกฏหมายและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ทั้งนี้อยากให้มีการแก้ปัญหาให้เป็นระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การบริหารประเทศยั่งยืน และต้องมีนายกรัฐมนตรี และมีคณะรัฐมนตรี ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมามีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น ซึ่งทุกคนต้องปรับตัว และเชื่อว่านักการเมืองทุกพรรคก็คิดเช่นเดียวกันเพราะประชาชนเลือกตั้งมาแล้ว จึงต้องฟังเสียงและฟังความเห็นของประชาชน จึงฝากให้รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาทำงานได้สานต่องานที่คสช.ได้ทำค้างไว้