นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความพร้อมของ 7 พรรคการเมืองในการเสนอชื่อบุคคลเข้าร่วมโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ในช่วงเช้าวันนี้พรรคเพื่อไทยมีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และคณะกรรมการชุดต่างๆ และจะหารือถึงผู้ที่มีความเหมาะสมของ 7 พรรคการเมือง ที่จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามที่ทั้งสองสภาฯจะมีการประชุมร่วมกันในวันที่ 5 มิ.ย.
ทั้งนี้จากการหารือของ 7 พรรคการเมืองเมื่อครั้งที่แล้ว พรรคการเมืองต่างๆยังมั่นใจได้ข้อตกลงที่จะให้พรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้หารือว่าจะส่งใครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากการประชุมเมื่อได้ข้อยุติแล้ว ในช่วงบ่ายจะนำข้อหารือไปแจ้งต่อพรรคอนาคตใหม่ต่อไป ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย พรรคไม่ได้ส่งรายชื่อ เนื่องจากคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ประกาศว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ และคุณหญิงเอง คงจะไม่ยอมตระบัดสัตย์ที่เคยให้ไว้ต่อสาธารณะด้วย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่ง แต่จากกระบวนการที่เกิดขึ้นเชื่อว่าประชาชนเข้าใจหากการเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย เพราะด้วยกติกาที่เปลี่ยนแปลงไปที่ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงของสังคม สิ่งที่เกิดมาจากกติกาที่บิดเบี้ยว ทำให้เกิดสภาพปัญหาเช่นนี้ แม้แต่ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยหลายคนที่ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็เข้าสภาฯไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใดพรรคเพื่อไทยจะร่วมมือกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย สานต่อเจตนารมณ์ประชาชนให้บรรลุผล จะร่วมมือกันอย่างแข็งแรงเพื่อร่วมฝ่าฝันในกฎกติกาแบบนี้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทั้ง 7 พรรคการเมือง ผู้นำ หัวหน้าแต่ละพรรคล้วนมีคุณสมบัติครบถ้วน มีความพร้อมเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดทนายกฯของพรรคเพื่อไทย 3 คน แม้ไม่ได้เป็นส.ส. แต่ยังมีคุณสมบัติครบถ้วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็เหมาะสม เพียงแต่ติดข้อกฎหมาย ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯไม่ได้ เพราะมีส.ส.ไม่ถึง 25 คน ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ยังถือว่ามีคุณสมบัติ สามารถเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ จากนี้ไปทุกพรรคต้องไปทำความเข้าใจ กฎกติกาที่เป็นแบบนี้ จะเลือกผู้นำเฉพาะหน้าไปสู้กันในสภาฯอย่างไร
ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ว่าผลการหารือออกมาเป็นอย่างไร ตนเคารพการตัดสินใจในผลการหารือของ 7 พรรคการเมือง ไม่ว่าจะเสนอชื่อใคร ล้วนมีความเหมาะสมทั้งสิ้น