"วิษณุ" ยันส.ว.กำหนดคุณสมบัติเดียวกับ ส.ส. ห้ามถือหุ้นสื่อ ชี้หากมีปัญหาสามารถเลื่อนสำรองมาได้

ข่าวการเมือง Monday June 24, 2019 15:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ยื่นหนังสือให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ 21 ส.ว. ที่อาจเข้าข่ายเป็นผู้ถือหุ้นสื่อว่า คณะกรรมการสรรหาได้ตรวจสอบพบว่า สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) บางคนมีปัญหาเรื่องการถือครองหุ้น แต่เมื่อพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลสกลนครและศาลอ่างทองถือเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่เป็นบรรทัดฐานให้กับคดีอื่นๆ จึงไม่ได้ดำเนินการอะไร แต่สามารถร้องเรียนภายหลังได้ เพราะหากจะตัดชื่อออกไปก่อน คงต้องตัดออกทั้งหมด ซึ่งคุณสมบัติผู้ทำหน้าที่ส.ว. มีคุณสมบัติเหมือน ส.ส.

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสรรหาไม่สามารถสรุปได้ว่า คำว่าถือหุ้นสื่อมีความหมายอย่างไร ถ้าพบว่ามีการถือหุ้นตามความเป็นจริง พิสูจน์ได้ว่า มีการประกอบกิจการสื่อจริง แบบนี้ก็ไม่ผ่านคุณสมบัติ แต่หากเป็นการถือหุ้นในสื่อ โดยมีวัตถุประสงค์แบบไม้จิ้มฟันยันเรือรบ การจัดตั้งสื่อเป็นเพียงวัตถุประสงค์หนึ่งแต่ไม่ได้ประกอบการจริง ทางคณะกรรมการสรรหาจึงไม่กล้าวินิจฉัยและไปตัดสิทธิ ซึ่งมุมมองเดียวกับกรณีที่พรรคการเมืองต่างๆคัดผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.

"ไม่ใช่ความบกพร่องของคณะกรรมการ เพราะว่า เรามีเรื่องอื่นที่คิดว่า ถ้าสมมติว่าตั้งไปแล้วมีปัญหาก็ไม่กระทบอะไร ระบบสำรองเลื่อนขึ้นมายังมีอยู่ จึงไม่มีความเสียหายอะไรเกิดขึ้น...คณะกรรมการทำงานบริสุทธิ์ผุดผ่องทำงานเรียบร้อย"นายวิษณุ กล่าว

ส่วนที่ถูกมองว่า การยื่นตรวจสอบการถือหุ้นสื่อทั้งจากส.ส.ฝ่ายค้านและส.ส.รัฐบาล เป็นการแก้เกี้ยวของฝ่ายการเมืองนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยืนยันว่า หากเกิดกรณีศาลสั่งให้ส.ส.ที่ถูกยื่นตรวจสอบการถือหุ้นหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นร้อยคน สภาฯยังสามารถทำหน้าที่ได้ตามจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ และไม่กระทบในเรื่องขององค์ประชุม พร้อมทั้งปฏิเสธแสดงความเห็นว่า จะเป็นการกดดันการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ