รมว.คมนาคม แบ่งงาน-มอบนโยบาย เน้นลดภาระค่าครองชีพให้ปชช.ยกระดับบริการทั้งทางถนน น้ำ อากาศ ราง

ข่าวการเมือง Tuesday July 30, 2019 19:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้ความสำคัญดึงเอกชนร่วมลงทุน (PPP) ในโครงการภาครัฐ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมองว่ารูปแบบPPP เป็นเครื่องมือการเงินอีกรูปแบบหนึ่งที่รัฐไม่ต้องลงทุนเอง รวมทั้งการระดมทุนผ่ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ (TFF) ซึ่งโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ของคมนาคมจะเร่งรัดไม่ให้เกิดความล่าช้า ได้แก่โครงการรถไฟทางคู่ เฟส2 ทั้งงานโยธาและการเดินรถ เพราะขณะนี้หัวรถจักรของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) หมดสภาพ และยังต้องมีแผนซ่อมบำรุงซึ่งมีต้นทุนสูง ซึ่งการให้เอกชนเข้ามาบริหารจะได้เรื่องการลงทุนใหม่และประสิทธิภาพการบริหาร โดยให้ผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล และรฟท.จะได้ประโยชน์

ขณะเดียวกันโครงการที่อยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่กระทรวงคมนาคม ให้ความสำคัญ เร่งรัดให้เสร็จ โดยเร็ว ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน

นอกจากนี้ได้นำเรื่องการขยายสัมปทานทางด่วนให้กับบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ขอเวลาไม่เกิน 14 วันในการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดตั้งคณะทำงานที่มีรองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน

ขณะเดียวกันผลักดันการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 และ ทางวิ่ง(รันเวย์)ที่3 รวมทั้งการขยายท่าอากาศยานในภูมิภาค เพื่อขยายการรองรับผู้โดยสารทางอากาศ 150 ล้านคนภายใน 3 ปี จากปัจจุบันรองรับได้ประมาณ 100 ล้านคน

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายคำนึงถึงการให้บริการประชาชนเป็นสำคัญ ให้ประชาชนได้รับความสะดวก สบาย ปลอดภัย ประหยัด ยกระดับคุณภาพชีวิต แก้ปัญหาภาระค่าครองชีพ โดยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน ลดภาระงบประมาณให้รัฐบาล โดยการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์เต็มประสิทธิภาพ ทุกโครงการของกระทรวงคมนาคม ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ สำหรับนโยบายเร่งด่วน ประกอบด้วย

1) การแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น โครงการปรับปรุงถนนพระราม 2

2) การแก้ไขปัญหามลภาวะ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากรถบรรทุก รถโดยสารสาธารณะ โดยเข้มงวดการตรวจสอบสภาพรถให้เป็นไปตามกฎหมาย

3) ปรับเวลารถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรและการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในปัจจุบัน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะให้รถบรรทุกวิ่งระหว่าง 24.00-04.00 น. เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร

4) กำหนดอัตราความเร็วถนน 4 ช่องทางจราจรขึ้นไป ให้ใช้อัตราความเร็วได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อระบายการจราจรให้คล่องตัวยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูล และนำเสนอแผนการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนทั้ง 4 เรื่อง ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

รมว.คมนาคม กล่าวว่า กระทรวงจะสร้างทางเลือกใหม่ โดยการให้บริการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่น และกำหนดแนวทาง มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะ (TAXI) รูปแบบเดิม โดยมอบให้กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการดังนี้ 1) ศึกษารูปแบบ เงื่อนไขการอนุญาตบริการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่นที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้บริการประชาชนและศึกษาและกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะ (TAXI) ในปัจจุบัน ให้มีการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษา และนำเสนอแผนงาน พร้อมแนวทางปฏิบัติให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

ด้านการพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ประกอบด้วย 1) ศึกษา และจัดทำแผนการใช้บัตรโดยสารเชื่อมโยงรถไฟฟ้าทุกระบบ 2) ศึกษา และจัดทำแผนแก้ปัญหาด่านเก็บเงินทางพิเศษ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) ให้รถสามารถผ่านด่านเก็บเงินได้อย่างรวดเร็ว ลดความแออัดของรถบริเวณหน้าด่าน

นอกจากนี้มีนโยบายลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ดังนี้ 1) พัฒนาการให้บริการรถโดยสารประจำทาง ขสมก. และรถร่วมโดยสารประจำทาง ให้เป็นรถโดยสารปรับอากาศทั้งระบบ และมีการจัดเก็บค่าโดยสารเป็นระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E–Ticket ระบบตั๋วร่วม 2) ศึกษาแนวทางการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า โดยไม่มีผลกระทบต่อสัญญาซึ่งโครงการของรัฐจะเริ่มก่อนได้แก่ แอร์พอร์ตลิ้งค์ รถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีแดง เป็นต้น

3) ศึกษาแนวทางการปรับลดค่าผ่านทางพิเศษทุกประเภท (ทางพิเศษ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โทลล์เวย์) ตั้งแต่ 5 – 10 บาท โดยไม่มีผลกระทบต่อสัญญา ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทาง พร้อมนำเสนอแผนงานแนวทางปฏิบัติ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

ส่วนการพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางราง ประกอบด้วย 1) พัฒนารถไฟทางคู่ เพิ่มการขนส่งระบบราง 30% ภายในเวลา 3 ปี เพื่อให้เป็นระบบโลจิสติกส์หลักในการขนส่งสินค้า จากปัจจุบันใช้เพิ่มขึ้น 5-10% 2) สนับสนุนภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน 3) ศึกษา วิจัย และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากรางที่มีอยู่ในปัจจุบัน และสามารถใช้ให้เกิดผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าสูงสุดในอนาคต เพื่อให้บริการประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

การพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำ ประกอบด้วย 1) พัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำให้เป็นการเดินทางและการขนส่งทางเลือกในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเชื่อมโยงกับการคมนาคมขนส่งระบบอื่น ๆ ได้ 2) พัฒนาการขนส่งทางน้ำจากท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อลดปริมาณรถบรรทุกจากภาคใต้เข้าสู่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

การพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางอากาศ ประกอบด้วย 1) พัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งทางอากาศ เพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูมิภาค ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 150 ล้านคน 2) สนับสนุนสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline) ให้บริการประชาชนในภูมิภาคเพิ่มขึ้น และให้มีคุณภาพการให้บริการตามมาตรฐานสากล

ส่วนการจัดทำโครงการก่อสร้างของกระทรวงคมนาคมให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 1) ใช้หลักการ Thai First คือ ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน เป็นหลักสำคัญ 2) การใช้วัสดุทดแทนที่ผลิตจากยางพารา ในโครงการต่าง ๆ เช่น หลักเขตบอกทาง หมอนรางรถไฟ เป็นต้น เพื่อช่วยยกระดับราคายางพารา แก้ปัญหารายได้ของเกษตรกรชาวสวนยาง 3) ส่งเสริมให้ท่าอากาศยานภูมิภาคเป็นศูนย์กลางรวบรวมผลผลิต และกระจายสินค้าเกษตรออกสู่ตลาด

ทั้งนี้การดำเนินการใด ๆ ตามกฎหมายโดยเคร่งครัด โดยการทำงานของทุกหน่วยงานต้องยึดถือความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นสำคัญ และเปิดรับฟังข้อมูลจากข้าราชการ และสหภาพรัฐวิสาหกิจ ของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาประกอบการตัดสินใจของฝ่ายนโยบายต่อไป

นายศักดิ์สยาม ได้แบ่งงานให้นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ดูแลทางน้ำได้แก่ กรมเจ้าท่า และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ส่วนนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม รับผิดชอบงานทางอากาศ ยกเว้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) และ สำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ส่วนที่เหลือ รมว.คมนาคมรับผิดชอบได้แก่ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมราง เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ