นายภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวประณามการก่อเหตุรุนแรงในขณะที่ประชาธิปไตยกำลังเดินหน้า แต่เท่าที่รับฟังจากผู้บัญชาการทหารบกออกมาให้ข่าวแล้วแสดงว่าหน่วยงานด้านการข่าวก็รับรู้สถานการณ์เช่นกัน ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงจะต้องติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาให้ได้
สำหรับเหตุจูงใจในขณะนี้มองอยู่สองประเด็น คือ 1.เป็นการดิสเครดิตรัฐบาล เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเข้ามาดูแลหน่วยงานด้านความมั่นคงด้วยตัวเอง และ 2.เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นทางการเมืองที่รัฐบาลกำลังถูกปัญหารุมเร้า ทั้งเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญญาณ คุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี หรือปัญหาด้านเศรษฐกิจ
"มีการเตรียมการแน่นอน มีสิ่งบอกเหตุตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ที่ สตช.แล้ว วันนี้มาเกิดเหตุที่กองบัญชาการกองทัพไทย" นายภราดร กล่าว
นายภราดร กล่าวว่า การก่อเหตุต้องดูในรายละเอียดว่าใช้การตั้งเวลาหรือไม่ ถ้าใช่ก็ใช้คนไม่มาก แต่ผู้ปฏิบัติจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเพราะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งมีคนที่รู้ไม่มากไม่กี่กลุ่ม แต่ด้วยเทคโนโลยีสื่อสารในปัจจุบันคนรุ่นใหม่อาจเกิดการเรียนรู้ได้
นายภราดร กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่สามารถเคลียร์ปัญหาได้ก็จะถูกสังคมเกิดความคลางแคลงใจแน่นอน ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ก่อเหตุจะเชื่องโยงกับจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่นั้น ในขณะนี้คิดว่าไม่น่าจะใช่ แต่มาจากสมมุติฐานสองประเด็นข้างต้น เนื่องจากเกิดความไม่พอใจ ทั้งเรื่องปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาปากท้อง แต่ก็ไม่ประมาทว่าอาจเชื่อมโยงกันได้