ครม.อนุมัติหลักเกณฑ์ตามที่ ปปง.เสนอในการตรวจสอบข้อเท็จจริงลูกค้า ตัดช่องทางการฟอกเงิน-ก่อการร้าย

ข่าวการเมือง Tuesday October 1, 2019 15:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. ... ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้

สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง มีดังนี้

1. กำหนดบทนิยามคำว่า "ลูกค้า" "บุคคลที่มีการตกลงกันทางกฎหมาย" "ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ" "ธุรกรรมเป็นครั้งคราว"

2. กำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพ ตามมาตรา 16 ต้องดำเนินการประเมิน บริหาร และบรรเทาความเสี่ยงด้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง โดยคำนึงถึงปัจจัยความเสี่ยงอันเกิดจากลูกค้า พื้นที่หรือประเทศ ผลิตภัณฑ์ บริการ ธุรกรรม หรือช่องทางในการให้บริการ

3. กำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพ ตามมาตรา 16 ดำเนินการระบุตัวตันและพิสูจน์ทราบตัวตนของลูกค้า รวมทั้งทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะธุรกิจของลูกค้า ตลอดจนโครงสร้างการบริหารจัดการหรือการเป็นเจ้าของ และอำนาจในการควบคุมนิติบุคคลหรือบุคคลที่มีการตกลงกันทางกฎหมายนั้นด้วย

4. กำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพ ตามมาตรา 16 ต้องดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงในระดับที่เข้มข้นที่สุด หากพบกว่าลูกค้ามีความเสี่ยงสูง จนอาจเป็นเหตุให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา 16 ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา 16 ต้องปฏิเสธการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ไม่ทำธุรกรรม ยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจ หรือไม่ทำธุรกรรมเป็นครั้งคราวกับลูกค้าดังกล่าว และรายงานเป็นธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยต่อสำนักงาน

5. กำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพ ตามมาตรา 16 อาจลดระดับความเข้มข้นในการดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำลงได้

6. กำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพ ตามมาตรา 16 ดำเนินการบริหารความเสี่ยงด้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง สำหรับลูกค้าที่ทำธุรกรรมเป็นครั้งคราวที่มีความเสี่ยงสูง โดยต้องดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่ทำธุรกรรมเป็นครั้งคราวดังกล่าวในระดับที่เข้มข้นที่สุด ในกรณีที่ลูกค้าที่ทำธุรกรรมเป็นครั้งคราวมีความเสี่ยงสูงจนอาจเป็นเหตุให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา 16 ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพ ตามมาตรา 16 ต้องไม่ทำธุรกรรมกับลูกค้าที่ทำธุรกรรมเป็นครั้งคราวดังกล่าว และรายงานเป็นธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยต่อสำนักงาน

7. กรณีที่มีการให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ข้ามประเทศ ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป สถาบันการเงินผู้ส่งคำสั่งโอนและสถาบันการเงินผู้รับคำสั่งโอน ต้องดำเนินการส่งและรับข้อมูลของผู้โอน และผู้รับโอนพร้อมคำสั่งโอนเงิน โดยต้องจัดให้คำสั่งโอนเงินมีข้อมูลของผู้โอนและผู้รับโอน

8. กรณีการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับสถาบันการเงินตัวแทน ประเภทการชำระเงินโดยผ่านบัญชีโดยตรง สถาบันการเงินต้องรับรองได้ว่า สถาบันการเงินตัวแทนต้องดำเนินการบริหารความเสี่ยง และตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าและจะให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง และการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้ารายนั้น แก่สถาบันการเงินตามที่ได้รับการร้องขอ

9. กำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพ ตามมาตรา 16 ต้องดำเนินการตามนโยบายและระเบียบวิธีการเกี่ยวกับการควบคุมภายในที่เหมาะสมกับความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงภายในองค์กรและขนาดธุรกิจของสถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพ ตามมาตรา 16


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ