น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ว่า ในที่ประชุมได้หารือการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถึงกรอบวันเวลาที่จะยื่น ซึ่งจะยึดเอาตามปีปฏิทิน โดยในวันที่ 27 พ.ย. พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการประชุมอีกครั้ง พร้อมทั้งกำหนดความชัดเจนว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ ซึ่งหลังการประชุมคงจะได้ข้อสรุป คาดว่าจะสามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ในวันที่ 29 พ.ย. หรืออย่างช้าคือวันที่ 2 ธ.ค.
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านมุ่งมั่นตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินที่บกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนเสียโอกาส การตรวจสอบการทำงานรัฐบาล เป็นเหมือนภาพสะท้อน เสียงสะท้อนจากประชาชน ส่วนผู้ชี้แจงจะชี้แจงถูกต้องตรงประเด็นหรือไม่ เป็นอีกเรื่อง แม้การยกมือโหวต คงไม่ทำให้ใครหล่นจากเก้าอี้ได้ ตอนนี้มีข้อมูลหลั่งไหลมาจากภาคธุรกิจ เอกชน ที่เห็นถึงการทำงานไม่ครบถ้วน ไม่เป็นไปตามนโยบาย ข้อมูลจากฝ่ายราชการที่มีร่องรอย เปิดโอกาสที่จะเกิดการทุจริต ถึงแม้การโหวตจะไม่ทำให้ใครตกเก้าอี้ ในการอภิปราย จากเดิมที่รัฐบาลบริหารงานบกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพ ก็จะได้นำมาปรับปรุง ที่คิดจะคอร์รัปชั่น ก็จะได้ไม่กล้าดำเนินการ โดยการอภิปรายครั้งนี้ เรายึดเอาผลประโยชน์ประชาชน ไม่ได้ยึดเอาผลประโยชน์ฝ่ายค้าน
ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยอยากให้มีการอภิปรายไม่เกินวันที่ 20 ธ.ค. เพราะหลังจากนั้นจะเข้าบรรยากาศเลือกตั้งซ่อมส.ส.ขอนแก่น เทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่
แต่จากการที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดว่า การยื่นอภิปรายครั้งนี้ควรจะนับรอบตามปีปฏิทินหรือนับตามปีการตั้งรัฐบาล ถือเป็นการพูดที่พยายามทำให้ฝ่ายค้านไขว้เขว ทำลายจังหวะพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้เชื่อว่ารัฐบาลพยายามจะกลั่นแกล้ง โดยจะบรรจุญัตติล่าช้าเพื่อที่จะให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไปในช่วงปลายเดือนธันวาคมใกล้กับเทศกาลปีใหม่ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจะเป็นการทำลายบรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
"หากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายในวันศุกร์ 29 พ.ย.หรือวันจันทร์ 2 ธ.ค. ซึ่งวันเวลาที่เหมาะที่จะอภิปราย คือช่วงวันที่ 15 ธ.ค. ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องรอไปถึงปลายเดือนธ.ค. เว้นเสียแต่รัฐบาลจะกลั่นแกล้งฝ่ายค้าน ถ้าเป็นเช่นนั้นอารมณ์ประชาชนจะไม่ค่อยสนใจการเมือง จึงขอให้เห็นใจประชาชนและฝ่ายค้านด้วย"
นายสุทิน กล่าวต่อว่า การอภิปรายครั้งนี้หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงบุคคล ใครไม่เหมาะสม ไร้ประสิทธิภาพ