(เพิ่มเติม) นายกฯ มอบหมายรมต.ชี้แจงการอภิปรายฯแทน ปัดเอื้อประโยชน์เอกชน

ข่าวการเมือง Tuesday February 25, 2020 11:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ใช้สิทธิชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า การชี้แจงของรัฐบาลมีความจำเป็นต้องพูดถึงหลายกระทรวง แม้นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลและกำหนดแนวทางการทำงาน แต่ไม่ได้เป็นคนทำงานทั้งหมดเพียงผู้เดียว ตั้งแต่สมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาแล้ว โดยขอให้ประชาชนรับฟังข้อเท็จจริงและคำตอบจากรัฐบาล เพื่อให้เกิดการรับรู้และสร้างความปรองดอง เพื่อไม่ให้เกิดการแบ่งฝ่ายโดยไม่มีหลักการ

นายกรัฐมนตรี ยังได้ชี้แจงถึงกรณีการก่อสร้างหอชมเมืองว่า เป็นโครงการของเอกชน เพื่อเป็นภูมิสถานอยู่คู่กับแผ่นดินบนที่ดินราชพัสดุ ไม่ใช่โครงการของรัฐ และไม่มีการใช้งบประมาณของรัฐ โดยเมื่อเอกชนสร้างเสร็จแล้วจะยกให้กับกรมธนารักษ์ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 4,423 ล้านบาท

ส่วนข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านที่ระบุว่าสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอกชนได้มีหนังสือขอผ่อนผันการชำระเงิน ซึ่งทำให้ต้องมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน แต่เป็นการให้ความเป็นธรรมและต้องมีการเยียวยาให้กับเอกชน

"กรณีเรื่องการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นพลเรือนด้วยกัน ผมไม่ห่วงว่าจะเรียกกันว่าอะไร แต่สำหรับทหารและตำรวจทั้งหลายได้ร่วมพิธีถวายสัตย์ฯ และรับพระราชทานยศมาด้วยกัน กรุณารักษาศักดิ์ศรีของตัวเองกันไว้ด้วย ผมไม่ได้โกรธเคืองอะไรท่านเลย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ชี้แจงประเด็นกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มนายทุนของนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ว่า การใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ไขปัญหาทีวีดิจิทัลและกิจการโทรคมนาคมที่เจอทางตัน เพราะผู้ประกอบการประสบปัญหาขาดทุนจนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ จึงได้รวมตัวกันยื่นเรื่องให้รัฐบาลหาแนวทางช่วยเหลือ

"ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นวิกฤตของประเทศ ประชาชนเดือดร้อน ผู้ประกอบการเดือดร้อน...การออก ม.44 ของรัฐบาล คสช.ในอดีตนั้น เพื่อช่วยแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดภาวะทางตันของประเทศ ไม่ใช่เพื่อนายทุนคนใดคนหนึ่ง ทุกคนได้ประโยชน์หมด" นายพุทธิพงษ์ กล่าว

เมื่อรัฐบาลรับมอบคลื่นทีวีดิจิทัลกลับคืนมาแล้วได้นำออกประมูลได้เงินกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ทีวีดิจิทัลมีหนี้ 1.7 หมื่นล้านบาท เมื่อหักลบกลบหนี้กันแล้วทำให้มีรายได้ส่งเข้ารัฐกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลังจากแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และสามารถประมูล 5G ได้ ซึ่งเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ