เพื่อไทย อัดนายกฯ ไร้ความสามารถและล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ชักศึกเข้าบ้าน

ข่าวการเมือง Tuesday February 25, 2020 14:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไร้น้ำยา ไร้ประสิทธิภาพ และไร้วิสัยทัศน์ คนตกงานกว่า 4 แสนคน หนี้ครัวเรือนและความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้น คนจนเพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านคนเป็น 14 ล้านคน นี่คือความล้มเหลวของรัฐบาล

ทั้งนี้ รัฐบาลยังเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนบางกลุ่มและบางตระกูล ทำให้ร่ำรวยขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะคนที่บริจาคโต๊ะจีนในงานระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ ธุรกิจเติบโตก้าวหน้ามากถึง 25% ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา เช่น ธุรกิจดิวตี้ฟรี โครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อ 3 สนามบิน การขึ้นภาษีเหล้าเพื่อกีดกันการแข่งขันจากต่างชาติ โดยเอื้อเจ้าตลาดในประเทศ

น.ส.สรัสนันท์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ไม่เคยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาหรือสนับสนุนคนรากหญ้า โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ใช้แรงงาน หาเช้ากินค่ำ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกมองแต่ตัวเลขจีดีพี โดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่าการเติบโตของตัวเลขนั้นไม่ได้กระจายไปอย่างทั่วถึงประชาชนทั่วประเทศ

"นายพลเกษียณแล้ว แถมไม่มีความชำนาญในด้านเศรษฐกิจ แถมเพิ่งเริ่มใช้กูเกิลจะมาบริหารเศรษฐกิจดิจิทัล หรือบริหารเศรษฐกิจ ยิ่งการเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ" น.ส.สรัสนันท์ กล่าว

น.ส.สรัสนันท์ กล่าวว่า ผู้นำประเทศไม่มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจ ไม่มีศักยภาพทางด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี การกระทำและคำพูดของนายกรัฐมนตรีย้อนแย้งตลอดเวลา ไม่ได้สนับสนุนหรือส่งเสริมคนตัวเล็ก ผู้ประกอบการรายย่อยทำธุรกิจ แหล่งทุนหรือธนาคารพาณิชย์ต้องการปล่อยเงินกู้ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ และคิดดอกเบี้ยต่ำกว่าปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการรายเล็กๆ ขณะที่กฎหมายภาษี e-Payment มีเพื่อใช้กำกับคนตัวเล็กตัวน้อยที่กำลังตั้งตัว ซึ่งเท่ากับเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการ และไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

น.ส.สรัสนันท์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกำลังมีปัญหา รัฐกลับผลักภาระหรือรีดเลือดจากคนตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่มีอำนาจต่อรอง ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในไทยกำลังประสบปัญหา รัฐไทยก็อ้าแขนรับทุนใหญ่ อย่างอาลีบาบา ผู้ประกอบการค้าออนไลน์รายใหญ่ของจีน บริษัทเหล่านี้จะเข้ามาหากำไรในไทย ไม่ใช่ว่าจะเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจในไทย รัฐบาลกำลังชักศึกเข้าบ้าน และเท่ากับว่าตลาด e-Commerce ในไทยต้องไปสู่กับกลุ่มทุนรายใหญ่

"การเข้ามาของคนตัวใหญ่ๆ บริษัทใหญ่ๆ เข้ามาเขาเป็นบริษัทมหาชน สิ่งที่เขาต้องการอันดับแรก คือกำไร ไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทย ที่น่าตลกคือนายกฯ บอกว่าเขาจะเข้ามาช่วยเราพัฒนาประเทศ เขามีพ่อมีแม่เป็นคนไทยหรือ ทำไมเขาต้องมาหวังดีกับเรา ดิฉันกำลังจะชี้ให้เห็นว่าท่านนายกฯ และคณะรัฐมนตรีกำลังจะชักศึกเข้าบ้าน" น.ส.สรัสนันท์ กล่าว

ส่วนความหวังดีที่บริษัทจากจีนแสดงออกและการนำเสนอการตั้ง Platform ในไทย เป็นเพราะจีนต้องการข้อมูลผู้บริโภคและการท่องเที่ยวต่างๆ ในไทย เพื่อผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลกำลังนำผลประโยชย์ของชาติและคนตัวเล็กตัวน้อยไปแลกเปลี่ยนกับทุนใหญ่จากต่างชาติ ที่พร้อมเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ในไทย ซึ่งต้นทุนของต่างชาตินั้นน้อยกว่าไทยด้วยการอำนวยความสะดวกด้านข้อกฎหมาย

"รัฐบาลสามารถเอาเงินที่ใช้ซื้อยุทโธปกรณ์ ไปสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยไทย ผู้ประกอบการไทยที่มีแต่คนเก่ง แต่ไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ตลาดออนไลน์ไทยเคยมีศักยภาพ SME ที่พยายามปรับตัวมาเป็นออนไลน์ ทั้งหมดนี้เมื่อเจอทุนใหญ่จากจีนก็สู้ไม่ได้ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความไม่รู้ ความมักง่ายของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะเศรษฐกิจ" น.ส.สรัสนันท์ กล่าว

สาเหตุที่รัฐบาลไม่ได้สนใจคนไทย อุ้มแต่เจ้าสัว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มาจากประชาชน แต่มาจากการยึดอำนาจ ทำให้ต้องมีการต่อรองและเอาใจกับกลุ่มทุนใหญ่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ