นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคไม่ได้ร่วมเสนอญัตติด่วนแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) วานนี้ เนื่องจากยังมีความเห็นแตกต่างในประเด็นที่ระบุชัดเจนว่าห้าม ส.ส.ร.แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 แต่ไม่ได้ขัดแย้งกันในแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลต้องการเสนอญัตติแก้ไขมาตรา 269-272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.250 คนที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นก้าวแรก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ต้องไปทำประชามติ จึงไม่ควรเอาไปผูกไว้กับการแก้ไขมาตรา 256
สำหรับมาตรา 269 จะเสนอให้ยกเลิกหมวดเฉพาะกาลให้มี 250 ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช.โดยให้กลับไปใช้ 200 ส.ว.ที่มาจากหมวดปกติ, มาตรา 270-271 ให้การออกกฎหมายปฏิรูปประเทศเป็นไปตามขั้นตอนปกติ และมาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว.ร่วมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี
"พรรคก้าวไกลเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 60 เป็นระเบิดเวลา เป็นวิกฤติ ทางออกของวิกฤติสามารถทำด้วยการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดย ส.ส.ร. ไม่ทำให้การเมืองเดินไปสู่ทางตัน เรายังมีความเห็นต่างกันอยู่ ขอสงวนความเห็นในประเด็นสำคัญบางประเด็นไว้" นายชัยธวัช กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์เช้านี้
เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ความเห็นที่พรรคฯ ขอสงวนไว้เนื่องจากญัตติที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นไประบุไม่ให้ ส.ส.ร.แก้ไขหมวด 1 ว่าด้วยบททั่วไป และหมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งพรรคเห็นว่าไม่มีความจำเป็น เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 255 กำหนดข้อห้ามไม่ให้แก้ไขเพิ่มเติมที่เปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตย หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ ดังนั้นเมื่อกำหนดประเด็นดังกล่าวอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าหมวดดังกล่าวแก้ไขไม่ได้
"พรรคฯ เห็นว่าไม่มีความจำเป็นและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ เพราะในความเป็นจริงตามพัฒนาการของรัฐธรรมนูญไทยมีการแก้ไขมาโดยตลอด ไม่ใช่เป็นเรื่องต้องห้ามหรือแปลกประหลาด ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องห้ามแตะต้อง ไม่ได้หมายความว่าพรรคต้องการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 แต่ต้องการให้ทุกพื้นที่มีความปลอดภัยในการเสนอความคิดเห็นอย่างสันติ หากกังวลว่าจะมีการเซ็นเช็คเปล่าให้ ส.ส.จะไปแก้ไขแล้วจะเลยเถิด ไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ละครั้งมีข้อจำกัดอยู่แล้ว" นายชัยธวัช กล่าว
เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การมี ส.ส.ร.เพื่อให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในการเสนอความคิดเห็นร่วมกัน แต่หากมีการกำหนดเงื่อนไขไว้ก่อนจะทำให้คนจำนวนมากคิดว่า ส.ส.ร.ไม่ใช่พื้นที่ของพวกเขา ทุกคนจะได้เรียนรู้ถึงจุดสมดุล เพราะไม่มีใครที่ได้ทุกอย่างที่ต้องการ เพราะในที่สุดเมื่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต้องนำไปสู่การทำประชามติ